เรื่องเล่าจากสนามหลวง : สองอารมณ์ที่แตกต่าง

เรื่องเล่าจากสนามหลวง : สองอารมณ์ที่แตกต่าง

เรื่องเล่าจากสนามหลวง : สองอารมณ์ที่แตกต่าง

หญิงวัยกลางคนนั่งพับเพียบเรียบร้อยคนเดียวบนเสื่อริมรั้วถนนมหาธาตุ สองมือของเธอกุมพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ใส่กรอบอย่างดีไว้แนบอก แสงแดดที่แรงจ้าของวันที่ 24 ตุลาคม สาดกระทบอย่างจัง เธอหยิบร่มสีดำขึ้นมากาง แต่ใบหน้าเธอกลับยิ้มแย้ม จากการสอบถามจึงทราบว่าเธอมีนามว่า นางสำรวล เอมมา เป็นคนอำเภอดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี แต่ตอนนี้มาทำงานเป็นลูกจ้างที่โรงงานแถวพระประแดง และตั้งใจลางานมาปักหลักต่อแถวรอเข้าจุดคัดกรองตั้งแต่เช้าของวันนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีที่หากมาช้าเกินไป

22687804_10155854019957855_5012204377207269075_n

นางสำรวลเคยมาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ และได้มีโอกาสมาชมการซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา “วันนั้นฉันตื้นตันมาก” สำเนียงสุพรรณดังชัดขึ้น เธอบอกว่ามันเป็นวันที่ร้อนมาก แต่ก็คิดว่ายอมทนได้เพราะอยากมาเห็นด้วยตาของตนเอง เสียดายที่วันที่ 21 ตุลาคม ที่ซ้อมใหญ่เสมือนจริงเธอลางานมาไม่ได้ พอลางานได้ในวันที่ 22 ก็รีบนั่งรถประจำทางมาแต่เจ้ากรรมมาไม่ทันได้ดูริ้วขบวนอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำให้วันนี้เธอตัดสินใจลางานมา ถึงแม้ที่บริษัทจะมีสอบถามแต่ก็ยอมเพราะมันคือโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้ใกล้ชิดพ่อหลวงที่เธอรัก

“ตอน 10 ขวบฉันได้มีโอกาสรับเสด็จ ตอนนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ดอนเจดีย์ เมื่อปี 2502 ไม่เคยลืมเลย”

22687843_10155854020372855_1626758425742450344_n

ขณะที่พระองค์ทรงพระประชวร เธอก็ได้สวดมนต์ทำบุญให้เสมอ และเคยเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราชหลายต่อหลายครั้ง แต่ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่คนไทยหลายคนต้องโศกเศร้าเสียใจ เธอกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น แต่กลับรู้สึกอึ้งเมื่อทราบข่าว ได้แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่น่าเป็นไปได้ จนเมื่อฟังประกาศอย่างเป็นทางการของสำนักพระราชวังในคืนเดียวกันนั้น เธอรู้สึกเสียใจมากจริงๆ และตั้งใจเดินทางมาที่โรงพยาบาลศิริราชในวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อร่วมชมขบวนเคลื่อนพระบรมศพสู่พระบรมมหาราชวัง

“บอกตรงๆฉันเสียใจมากที่พระองค์สวรรคตแล้ว แต่อีกใจก็ยินดีที่พระองค์เสด็จสู่สวรรค์ชั้นดุสิต พระองค์ทรงเหนื่อยเพื่อพวกเรามามากแล้วจริงๆ” แววตาของเธอมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาในเวลาเดียวกัน

22552295_10155854019402855_3309668892142693135_n

มันเป็นความรู้สึกคนไทยหลายคนคงมีเหมือนกัน เพราะถึงแม้การยอมรับความจริงจะทรมานแต่สุดท้ายแล้วเราทุกคนก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ เธอได้ตั้งใจแต่งเพลง “อาลัยรักพ่อภูมิพล” บทเพลงที่แต่งขึ้นจากความรู้สึกของเธอที่มีต่อพ่อหลวงที่เธอรัก เสียงที่ขับกล่อมเพลงนั้นอาจจะไม่ได้ไพเราะมากมาย เป็นทำนองเพลงแบบลูกทุ่งปกติ แต่มันคือเสียงเพลงที่ขับขานด้วยใจที่จงรักและภักดี และมันคงเป็นสิ่งที่เธอสามารถพึงทำได้และตั้งใจจะทำความดีเพื่อตอบแทนพระองค์ เธอยืนยันจะรอต่อแถวเข้าถึงแม้ฝนอาจจะตกก็ตาม เพราะมันคงเทียบไม่ได้กับความเหนื่อยยากที่พระองค์ทรงงานหนักเพื่อคนไทยมาตลอด ไม่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจะโศกเศร้าเพียงใด แต่ขอให้ระลึกว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป และเราจะทำอย่างไรเพื่อให้มันดียิ่งขึ้นกว่าเดิม