หมอ-พยาบาลแต่งการ์ตูน เยี่ยมหนูน้อย3ขวบป่วยมะเร็งกระดูก

หมอ-พยาบาลแต่งการ์ตูน เยี่ยมหนูน้อย3ขวบป่วยมะเร็งกระดูก

หมอ-พยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา แต่งการ์ตูนเยี่ยมหนูน้อยวัย 3 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งที่กระดูกต้องตัดขา หวังให้น้องมีพลังในการต่อสู้กับโรคร้าย

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 เวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ตึกมหิดล ชั้น 4 แผนกกุมารแพทย์ นางอุษณีย์ จรเขต นางพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย หัวหน้าหอผู้ป่วยตึกสิริกิติ์ขั้น 5 เปิดเผยว่าตนเองทำงานเป็นหนึ่งในคณะทำงานการดูแลผู้ป่วยรายกรณีทีมการดูแลแบบประคับประคอง โดยภารกิจนั้นคือการเป็นทีมที่จะสร้างแรงใจให้กับผู้ป่วย ซึ่งในกรณีของ ด.ญ.ณัฐณิขา คล้ายแก้ว หรือน้องอ้อ อายุ 3 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่กระดูกต้นขาซ้าย ด้วยที่โรคมะเร็งกระดูกที่น้องเป็นอยู่ในช่วงระยะแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น อยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์เฉพาะทางระบบกระดูกและข้อเฉพาะทางเนื้องอกของ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย โดยทางทีมแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าจะต้องทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดขาซ้ายของน้องเพื่อที่จะรักษาชีวิตน้องไว้

โดยจุดเริ่มต้นในการเข้ามาดู น้องณัฐณิขา คล้ายแก้ว หรือน้องอ้อ อายุ 3 ขวบ ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่กระดูกต้นขาซ้าย ในครั้งนี้เพื่อที่จะให้กำลังใจน้องเพราะโรคมะเร็งที่น้องเป็นทางคุณหมอได้วินิจฉัยแล้วว่าถ้าจะให้น้องอ้อมีชีวิตรอดต่อไปได้จำเป็นจะต้องตัดขาของน้องข้างที่เป็นมะเร็ง ซึ้งในด้านทางการรักษาทางแพทย์ได้เตรียมที่จะทำการผ่าตัดทั้งบุคลากร และเครื่องมือทางการแพทย์แต่ในเรื่องจิตใจก็มีความสำคัญทางเราจึงได้ปรึกษาคุณแม่ของน้องว่าน้องชอบอะไร จึงได้คำตอบจากคุณแม่ว่าน้องชอบตุ๊กตานิ่ม ๆ คุณหมอ พยาบาลและนิสิตแพทย์จึงได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงใจโดยการแต่งเป็นตัวการ์ตูนไปหาน้องเพื่อให้กำลังใจมีแรงใจที่ดีในการต่อสู้กับโรคร้ายไปพร้อมกับคุณหมอ และยังคิดต่อไปว่าถ้าน้องออกจากห้องผ่าตัดแล้วขาน้องจะไม่มีเราจึงเตรียมรถวิวแชร์ไว้ให้น้องด้วย โดยสภาพนี้ที่เราเห็นน้องไม่มีแรง ลุกไม่ไหว มีอาการเจ็บปวดทั่วร่างกาย

ทางด้านคุณแม่ นางสาวลัดดา เชื้อเมฆ อายุ 18 ปี ได้บอกถึงความรู้สึกว่า ตนเองรู้สึกขอบคุณที่คุณหมอ และพยาบาลเอาใจใส่ในการดูแลน้องทั้งร่างกาย และจิตใจโดยกิจกรรมที่ทางคุณหมอได้ทำในครั้งนี้น้องดูมีความสุขขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดน้องมีรอยยิ้มที่ทำให้ตนเองผู้เป็นแม่ รู้สึกได้ว่าน้องมีความสุขขึ้นถึงแม้ว่าจะยังคงเจ็บ และอ่อนเพลียจากการผ่าตัดก็ตาม สำหรับในการเลี้ยงดูน้องอ้อนั้น ตนเองเลี้ยงมาเพียงลำพังซึ่งในตอนนี้ตนเองได้ลาออกจากงานที่ตนเองทำเพื่อจะได้มีเวลาอย่างเต็มที่ ที่จะมาดูแลน้อง ตนเองสงสารลูกมาก ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจ็บ ต้องมาปวดแบบนี้ถ้าเปลี่ยนกันได้ขอให้ตนเองได้เป็นคนที่เจ็บแทนลูกตนเองยินดีจะที่เป็นแทน อาการของลูกจากการที่คุยกับคุณหมอ คุณหมอได้บอกว่า ตอนนี้มะเร็งได้รุกรามไปที่ปอดแล้ว แต่น้องก็อยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิดตนเองมีความหวังว่าน้องจะหายดีเป็นปรกติในไม่ช้านี้