สลด! แม่ฆ่าลูกเป็นออทิสติก อ้างสามีตาย-รักษาจนหมดตัว

สลด! แม่ฆ่าลูกเป็นออทิสติก อ้างสามีตาย-รักษาจนหมดตัว

สลดหดหู่ใจ! แม่ฆ่าลูกเป็นออทิสติกด้วยใช้ผ้ารัดคอ อ้างสามีตายและใช้เงินรักษาจนหมดตัว เผยโทรแจ้งตร.เอง สารภาพคิดหาวิธีมานานให้ตายทรมานน้อยที่สุด

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 กันยายน ร.ต.ท.อุกฤษฏ์ สุธีรพงศ์สิทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุแม่ผูกคอลูกตัวเองเสียชีวิต ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และ มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนงามวงศ์วานขาออก ตรงข้ามเรือนจำคลองเปรม เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น ชื่อเสริมศิริ เลขที่ 7/44 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่บริเวณชั้น 3 ห้อง 308 พบ น.ส.ยลวดี สงวนนามสกุล อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน นั่งร้องไห้ ข้างศพ ด.ญ.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี บุตรสาว ในสภาพนอนหงายอยู่บนเตียงสวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู กางเกงขายาวสีส้ม บริเวณคอมีรอยช้ำ และพบยาไดอะซีแพม (Diazepam) สีเหลือง ประมาณ 30 เม็ด อยู่ที่เตียง โดยบริเวณประตูห้องเช่ามีโซ่ยาวประมาณ 1 เมตร แขวนไว้

จากการสอบสวนน.ส.ยลวดี ให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาด มีสามีและมีบุตรสาวคนแรก แต่กลับเป็นเด็กออทิสติกตั้งแต่กำเนิด เคยเข้าศึกษาโรงเรียนวัดมหาบุศย์ ชั้นประถมศึกษาแต่ก็ต้องออกมา เพราะมีอาการผิดปกติ ก่อนเข้ารักษาตัวที่สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ย่านดินแดง ปี 2549 ก่อนหน้านี้ตนกับสามีช่วยกันเลี้ยงดูลูก กระทั่งสามีได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตนจึงต้องเป็นเสาหลักครอบครัว รับภาระมาโดยตลอด จึงมีความเครียดสะสมต้องกินยานอนหลับ จำนวน 2 เม็ด ทุกวัน เพื่อให้นอนหลับจะได้ตื่นเช้าไปทำงานหาเงินจ่ายค่าห้องเช่า ค่ายา ค่ารักษาต่างๆ ขณะไปทำงานต้องใช้โซ่ล๊อคห้องไว้ เพราะลูกสาวชอบเปิดประตูออกไปนอกห้องเสมอ

น.ส.ยลวดี เปิดเผยอีกว่า ตนแบกรับภาระไม่ไหว พยายามจะฆ่าลูกสาวมานานแล้ว พยายามหาวิธีที่ทรมานน้อยที่สุด กระทั่งตอนเช้าตรู่ วันที่ 11 กันยายน ได้ลาออกจากงานแล้วมานอนกับลูกสาวในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ก่อนใช้ผ้าในห้องรัดคอจนเสียชีวิต และนอนอยู่กับลูกสาวจนหลับไป จากนั้นเมื่อตื่นมาจึงไปซื้อเบียร์ 3 ขวดมากินพร้อมยานอนหลับหลายเม็ด หวังฆ่าตัวตายตามลูกสาวแต่ก็อาเจียนออกมาจนหมด ก่อนหมดสติไปและตื่นมาแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

ร.ต.ท.อุกฤษฏ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) เข้ามาชันสูตรพลิกศพ โดยศพนำส่งรพ.ตร. จากการสอบถามน.ส.ยลวดี ให้ยอมรับสารภาพโดยดี แต่มีอาการมึนเมาสุราและร้องไห้ ต้องให้สงบสติอารมณ์ก่อน แล้วจะทำการได้สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป