‘บีกริม’ เทรดวันแรกเหนือจอง 5%

‘บีกริม’ เทรดวันแรกเหนือจอง 5%

บีกริมเทรดวันแรก "เหนือจอง5%" บิ๊กล็อตโผล่ 2 แสนหุ้น ราคาปิดตลาด เดินหน้าลงทุนตามแผนขยายสู่ต่างประเทศ

บี.กริม เพาเวอร์ เข้าซื้อขายวันแรกเหนือจอง 5.62% เดินหน้าลงทุนรุกธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศ ประเดิมเข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าในมาเลเซียสิ้นปีนี้

บรรยากาศการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก วานนี้ (19ก.ค.) ของบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BGRIM เปิดการซื้อขายที่ระดับ 17.00 บาท สูงกว่าราคาจองซื้อที่ 16 บาท และปิดการซื้อขายที่ 16.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.62% ระหว่างวันทำราคาสูงสุดที่ 17.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,307 ล้านบาท

ขณะที่ในกระดานซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำนวน 200,000 หุ้น ราคาเฉลี่ยน 16.90 บาท รวมมูลค่า 3.38 ล้านบาท

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี. กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์กิจการ (Due Deligence) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม)ในประเทศมาเลเซีย กำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ โดยเตรียมสรุปเซ็นสัญญาการลงทุนภายในสิ้นปีนี้ โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% คาดว่าจะใช้งบลงทุน 30 - 40 ล้านบาท/เมกะวัตต์

นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเข้าศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซกองใน สปป.ลาว กำลังการผลิต 300 - 400 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้

รวมทั้ง บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าในประเทศกัมพูชา เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่นิคมอุตสาหกรรมในกัมพูชา มูลค่าการลงทุน 3-4 ล้านดอลลาร์ คาดว่าก่อสร้างแล้วสิ้นในปลายปีนี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2561

เธอกล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดอยู่ที่ 1,626 เมกะวัตต์และมีสัญญาใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) อยู่ทั้งหมดแล้ว 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตแตะ 5,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยการเพิ่มกำลังการผลิตที่เหลืออีก 2,500 เมกะวัตต์ บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณอีกราว 1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น เงินลงทุน 40-50 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์

“สำหรับหุ้น BGRIM ที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้นวันนี้เป็นวันแรกนั้น มีความพอใจต่อราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดี ประกอบกับปริมาณการซื้อขายค่อนข้างมาก แสดงถึงหุ้นที่มีเสถียรภาพ และนักลงทุนให้ความสนใจ ให้ความมั่นใจต่อบริษัท”