'บอส อยู่วิทยา' จำวีรกรรมเขาได้หรือไม่

'บอส อยู่วิทยา' จำวีรกรรมเขาได้หรือไม่

"บอส" วรยุทธ อยู่วิทยา ใช้ชีวิตหรู-อยู่สบาย แต่คนไทยจำวีรกรรมเขาได้หรือไม่!!

จากข่าวที่สื่อนอก อย่างเอพี ได้นำเสนอต่อสังคมโลก ระบุถึง “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ที่เคยขับรถชนตำรวจตาย แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในทางการดำเนินคดี

แต่เขากลับยังใช้ชีวิตหรูหรา อิสระเหนือสิ่งอื่นใด บินรอบโลกด้วยเครื่องบินเจ็ตของเรดบูล นั่งเก้าอี้ VIP ดูการแข่งรถฟอร์มูลาวันเชียร์ทีมของตัวเอง

เรื่องนี้ ทำเอาคนไทยสะดุ้งโหยง เพราะมัวแต่ตามหน้ากากทุเรียนอยู่ จนเกือบลืมเรื่องของหน้ากากเรดบูลคนนี้กันเลยทีเดียว เพราะคดีนี้ เรียกว่ายืดเยื้อนานเกือบ 5 ปี จนข้อหาส่วนใหญ่ในคดีจะหมดอายุความลงในปี 2017 แล้ว

ว่าแล้วมาทวนความจำกันสักหน่อยว่า พวกเรายังจำเขาคนนี้ได้หรือไม่

“บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งปัจจุบันอายุ 31 ปี จากวันก่อเหตุ ซึ่งเขามีอายุที่เลข 27 กับจุดพลิกผันของชีวิต ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 3 กันยายน 2555

แต่เป็นชีวิตของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งาน (ป.) สน.ทองหล่อ ที่ต้องพลิกหงายหลายตลบ เพราะเขาถูกเก๋งสปอร์ต เฟอร์รารี่ รุ่นพินอินฟาริน่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กรุงเทพมหานคร ที่ “บอส” คนนี้ควบชนเสียชีวิตคาเครื่องแบบ

เราอาจรู้จักบอส ด้วยคำพ่วงท้ายประโยคเดียวว่า “ทายาทอยู่วิทยา” แต่คำๆ เดียวนี้แหละ ที่เอ่ยปุ๊บ คนไทยรู้เลยว่ามีความหมาย ทั้งทางด้านสินทรัพย์หมื่นแสนล้านและน่าจะมีความหมายทาง “บารมี” ที่ล้นจนวัดปริมาตรไม่ได้

เพราะเขาคือลูกชายคนสุดท้อง ในจำนวนบุตร 3 คนของเจ้าพ่อเรดบูลผู้โด่งดังทั่วโลก “เฉลิม อยู่วิทยา” และ “มาดามปุ๋ง-ดารณี อยู่วิทยา” ผู้เป็นมารดา

โดยพี่ทั้ง2 ของเขาคือ วรางคณา อยู่วิทยา หรือ แชมเปญ (สมรสกับ ม.ล.กอกฤษต กฤดากร) และ วาริท อยู่วิทยา หรือ ปอร์เช่

ในด้านการศึกษา วรยุทธ เป็นหนุ่มนักเรียนนอก จบการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากเซนต์มาร์ติน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ส่วนถามว่า ชิ้น-อัน ที่วรยุทธทำมีอะไรบ้าง นอกจากข่าวขับรถชนคนตาย เขายังทำอย่างอื่นด้วย คือ ช่วยงานของทางบ้าน

โดยธุรกิจของป๊ะป๋านั้น ต้องบอกว่ามีเยอะม๊าก…อย่างเช่น บริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด บอสก็มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ

แถมเพิ่งออกงานด้วยหน้าตาสดใส ช่วงปี 2558 ในอีเว้นท์เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับพี่ชาย “วาริท อยู่วิทยา” โดยงานดังกล่าวเรียกว่า แสงสีเสียงเพียบ ทั้งอาหาร ดนตรี และศิลปะ ณ ราชดำริ ซอย 2 (ตรงข้ามศูนย์ การค้าเซ็นทรัลเวิลด์)

ถามว่า สยามไวเนอรี่ขายอะไร ถ้าใครนึกไม่ออก ให้นึกถึง “มอนซูน แวลลี่ย์” ไวน์ไทย ที่มีไร่องุ่นขนาดใหญ่อยู่ในหลายจังหวัด รวมถึงเครื่องดื่ม “สปาย ไวน์คูลเลอร์” (ไมได้ค่าโฆษณานะงานนี้)

นอกจากนี้ ตอนที่ป๊ะป๋าเฉลิม และเพื่อนสนิทแห่งตระกูลภิรมย์ภักดี แห่งแบรนด์สิงห์ ลงขันจับมือกันเปิดบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก Ferrari S.p.A และ Ferrari APAC ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย และซ่อมบำรุงรถยนต์เฟอร์รารี่ แต่เพียงผู้เดียวในไทย ทำการเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2555 (ก่อนที่ลูกชายจะก่อเหตุขับรถชนตำรวจตายในช่วงปลายปี) วันนั้น ยังมี ปอร์เช่-วาริท และ บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ที่เข้ามาร่วมดูแลธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรูแห่งนี้ด้วย

มีรายงานว่า บริษัท คาวาลลิโน เซอร์วิส จำกัด นั้น นอกจากมีชื่อ วุฒา ภิรมย์ภักดี ถือหุ้น 24% เฉลิม 21% วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี 15% และคนอื่นๆ แต่ยังมีชื่อของ วรยุทธ และ วาริท อยู่วิทยา ถืออีกคนละ10% อีกด้วย และยังมี บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ที่นอกจากรายชื่ออื่นๆ แล้ว ก็ยังมีสองพี่น้องวาริทและวรยุทธที่ถือหุ้นกันอีกคนละ 10% เช่นกัน

สำหรับธุรกิจรถสปอร์ตหรู ไม่บอกก็รู้เลยว่า มีที่มาจากความชื่นชอบในความเร็ว

เพราะ เฉลิม อยู่วิทยา พ่อของวรยุทธ นั้น อีกด้านหนึ่งรู้กันดีว่า เขาเคยจัดงาน “ราชดำเนิน เรดบูล แบงค็อก 2010” ที่ถนนราชดำเนิน เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2553 ที่มีแชมป์โลกตัวจริง “เซบาสเตียน เวตเทล” มาขับโชว์

ช่วงรอยต่อปีสองปีนั้น จะเรียกว่าเป็นช่วงสดใสของชีวิต เพราะเขายังฝันที่จะลงทุนสร้างสนามแข่งขันรถสูตร 1 หรือ ฟอร์มูล่า 1 ในประเทศไทย โดยอาจร่วมกับ น้องชายต่างมารดา “สราวุฒิ อยู่วิทยา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระทิงแดง จำกัด ในฐานะเจ้าของ ทีม “เรดบูลล์ เรซซิ่ง” อีกด้วย

แต่จะเรียกว่า ดับฝันของพ่อหรือไม่ ไม่แน่ใจ เพราะการที่ช่วงปลายปี บอส วรุยทธ ใช้ถนนสุขุมวิทเป็นสนามลอง “รถของพ่อ” จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว ก็ทำให้เรื่องราวแห่งความเร็วแรง ในเส้นทางเจ้าพ่อรถสปอร์ตของเฉลิม อยู่วิทยา ไม่ได้ถูกไฮไลท์จากคนในครอบครัวอีกเลย นับแต่นั้น (อย่างน้อยก็ในประเทศไทย)

การที่ภายหลัง “บอส” วรยุทธได้การรับประกันตัวออกไปในวงเงิน 5 แสนบาท ออกไปใช้ชีวิตอยู่อย่างชิลส่งผลให้เป็นที่กังขาของสังคมทั้งไทยและเทศ ว่าหากผู้ก่อเหตุไม่ใช่ระดับนี้ ผลจะออกมาแบบไหน

ดังนั้น ในเมื่อวันนี้ สื่อนอกถามมา สื่อไทยก็รับลูกแล้วถามต่อ จน ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้เพิกเฉย แต่เคยแถลงความคืบหน้าไปเมื่อ 29 มีนาคม 2559

แต่ติดที่ผู้ต้องหา ไม่มาตามนัดและขอเลื่อนมาโดยตลอด อ้างว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ

อย่างวันที่ 30 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มาตามนัดอีก โดยบอกว่าติดภารกิจอยู่ที่อังกฤษ จึงให้เลื่อนไป เป็น 27 เมษายน 2560 ซึ่งถ้ายังเบี้ยวอีกจะมีการพิจารณาขอออกหมายจับ

แปลว่า ต้องรอดูกันต่อไป

แต่หากถามว่า บอสมีคดีอะไรบ้างนั้น บอกเลยคดีขับรถเร็ว หมดอายุความไปนานแล้ว (อายุความ 1 ปี) เพียงแค่นี้ หลายคนถามเลยว่า เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้ด้วย!

นี่ยังมี คดีไม่แจ้งเหตุช่วยเหลือ ที่กำลังจะหมดอายุความ 3 กันยายน 2560 ที่จะถึง (อายุความ 5 ปี) ส่วนคดีขับรถโดยประมาทมีอายุความทั้งหมด 15 ปี และจะหมดอายุความในปี 2570

งานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะยื้อไปจนหมดอายุความหรือไม่ คงต้องถามลูกผู้ชายตัวจริง (ป๊ะเนี่ย?) อย่าง “บอส” ดู...