ติดป้ายห้ามเก็บปะการัง 3 อ่าว เกาะราชาจ.ภูเก็ต

ติดป้ายห้ามเก็บปะการัง 3 อ่าว เกาะราชาจ.ภูเก็ต

ภูเก็ต สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ติดตั้งป้ายแจงข้อปฏิบัติ และข้อห้าม 3 อ่าวบนเกาะราชา

 หลังเกิดปัญหานักท่องเที่ยวเก็บปะการังและจับสัตว์น้ำ เตือนหากยังฝ่าฝืน จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน

(26 ม.ค.2560) เจ้าหน้าที่ สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช. 6) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำโดยสุชาติ รัตนเรืองสี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สบทช.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน ได้เข้าดำเนินการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ และข้อห้ามต่างๆ ในการท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย บริเวณอ่าวปะตก อ่าวสยาม และอ่าวทือ เพื่อป้องกันการกระทำผิดของนักท่องเที่ยว พร้อมขอให้มัคคุเทศก์หรือไกด์ ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวก่อนทุกครั้งเมื่อขึ้นมาบนเกาะและลงไปทำกิจกรรมบริเวณชายหาด ซึ่งพบว่าได้รับความร่วมมือจากมัคคุเทศก์เป็นที่น่าพอใจ

 นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับป้ายประชาสัมพันธ์ที่มีการติดตั้งนั้น มีข้อความ เป็นสามภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ด้านบนเขียนข้อความว่า ประกาศกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีการระบุข้อปฏิบัติในการท่องเที่ยวบนเกาะราชา มีข้อห้ามหลัก ๆ ที่ต้องปฏิบัติ 4 ข้อ คือ 1.ห้ามจอดเรือโดยการทิ้งสมอบริเวณเกาะราชาใหญ่ 2.ห้ามเดินเหยียบย่ำปะการัง 3.ห้ามจับหรือเก็บสัตว์น้ำ(รวมถึงปะการังและซากปะการัง) และห้ามให้อาหารสัตว์น้ำ รวมทั้ง 4. ห้ามทิ้งขยะหรือของเสียลงทะเลและให้นำขยะกลับฝั่ง

ซึ่งจุดที่มีการติดตั้งป้ายทั้ง 3 อ่าวนั้น จะใช้เป็นจุดรวมพล เพื่อให้มัคคุเทศก์หรือไกด์นำนักท่องเที่ยวมาอบรมชี้เเจง และแนะนำข้อห้ามต่างๆ ในการมาท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจและไม่กระทำความผิด ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรทางทะเล หลังจากที่เกิดปัญหานักท่องเที่ยวเก็บปะการัง และจับปลาสวยงามขึ้นบ่อยครั้ง จนนำมาซึ่งการถูกจับกุมและเป็นข่าวครึกโครม

“หลังจากติดตั้งป้ายครบทุกจุดแล้ว จะได้เร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและไกด์ที่จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นมาบนเกาะ เพื่อจะได้นำนักท่องเที่ยวมาอธิบายและทำความเข้าใจ ก่อนการแยกย้ายไปทำกิจกรรมบนเกาะ เชื่อว่าหากสามารถทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึงก็จะทำให้ปัญหาการทำลายทรัพยากรลดน้อยลง แต่หากหลังจากนี้ พบว่ายังมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยโทษของผู้กระทำผิดในการกรณีการทำลายทรัพยากรทางทะเลนั้น จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมกันนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่นำเรือออกตรวจตราบริเวณโดยรอบเกาะราชา เพื่อเข้มงวดกวดขัน ป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดตามประกาศของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไปด้วย” นายสุชาติ กล่าว