ประมงจับเรือหาปลาผิดกฎหมาย ได้ของกลางเพียบ

ประมงจับเรือหาปลาผิดกฎหมาย ได้ของกลางเพียบ

จนท.จับเรือหาปลาผิดกฎหมาย ใช้หาปลาผิดประเภท ไม่ตรงตามกฎหมายกำหนด ได้ของกลางเป็นจำนวนมาก

ว่าที่ ร.ต.กำธน สุอรุณ ผอ.ส่วนบริหารจัดการประมงน้ำจืด กองบริหารจัดการน้ำจืด กรมประมง ได้รับแจ้งจากเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่สายสืบในต่างจังหวัด แจ้งว่ามีการลักลอบจับปลาในแม่น้ำสงครามผิดกฎหมาย ตั้งแต่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ไล่ลงมาถึงรอยต่อ อ.ศรีสงคราม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยทหาร ฝ่ายปกครอง และเรือบริหารจัดการประมงน้ำจืดเขื่อนน้ำอูน,เขื่อนอุบลรัตน์,และเขื่อนลำปาว จำนวน 25 นาย ลอบซุ่มจับกุมตั้งแต่เวลา 01.00 น. จนสว่าง สามารถยึดเรือประมงที่ใช้หาปลาผิดประเภท ไม่ตรงตามกฎหมายกำหนด ประกอบด้วยชุดโต่ง(ยอขนาดใหญ่) 3 ชุด และเรืออวนรุนประกอบเครื่องยนต์ 3 ลำ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน นำส่ง สภ.ศรีสงคราม พร้อมของกลาง

ซึ่ง ว่าที่ ร.ต.กำธน หัวหน้าชุดเปิดเผยว่ามีชาวบ้านร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมนครพนม ถึงกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อลุ่มน้ำสงครามใช้วัสดุหาปลาที่กฎหมายห้ามปราม และหากถูกจับกุมจะมีโทษปรับหนักเช่นโต่งหรือภาษากลางเรียกว่ายอที่มีขนาดใหญ่มาก จะถูกปรับขั้นต่ำ 1 แสนบาทและสูงสุด 5 แสนบาท ส่วนเรืออวนรุนค่าปรับอยู่ขั้นต่ำ 1 หมื่นและสูงสุด 1 แสน จึงส่งสายสืบออกหาข่าวตั้งแต่ อ.อากาศอำนวย ถึงปากน้ำบ้านไชยบุรีจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำสงครามกับแม่น้ำโขง ทราบเวลาการลักลอบชัดเจนจึงสนธิกำลังเข้าจับกุม

โดยเกือบตลอดสายแม่น้ำสงคราม เป็นแหล่งอาหารที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ ปลานานาชนิดว่ายไปวางไข่ทุกๆปีในฤดูน้ำหลาก แต่มีกลุ่มผู้ลักลอบจำนวนมากเอาวัสดุหาปลาผิดประเภท ซึ่งไม่ตรงตามกฎหมายกำหนดมาใช้ ทำให้พันธุ์ปลาหลายชนิดเริ่มสูญพันธุ์เพราะเกิดจากความเห็นแก่ตัวของชาวประมงเอง แม้จะมีการแจ้งเตือนถึงข้อกฎหมายหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความเกรงกลัวยังลักลอบทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จนมีชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ทนไม่ไหว จึงแจ้งให้ศูนย์ดำรงธรรมทราบ จนมาถึงการเข้าจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว