สลด!ฟ้าผ่า2หนุ่มเขมร ดับคู่คาเพิงพักกลางทุ่ง

สลด!ฟ้าผ่า2หนุ่มเขมร ดับคู่คาเพิงพักกลางทุ่ง

สลด! ฟ้าผ่า 2 หนุ่มเขมรรับจ้างถางหญ้าฝั่งไทย ดับคู่คาเพิงพักกลางทุ่ง

พ.อ.ปรมาธร บุนนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก ร.ต.เกรียงไกร ทองวิชิต ผบ.ร้อย ทพ.1203 ว่าเกิดเหตุฟ้าผ่าชาวเขมรเสียชีวิต 2 คน บริเวณเพิงพักกลางทุ่งนา พื้นที่หมู่ 6 บ้านคลองทับจันทร์ ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ท.สมเจตน์ ผลประเสริฐ รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา และตำรวจ สภ.อรัญประเทศ

ที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักกลางทุ่ง มุงหลังคาสังกะสี ข้างๆมีบ่อน้ำติดกับไร่อ้อยของนายนิกร ดาราศร อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.6 ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ พบศพชายชาวเขมร 2 คน นอนเสียชีวิตคู่กันสภาพใบหน้าเขียวคล้ำ ร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยฟ้าผ่าบริเวณเพิงพัก คาดถูกฟ้าผ่าทำให้เสียชีวิตทั้งคู่ 

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ชายชาวเขมรทั้ง 2 คน ชื่อนายเดช อายุ 27 ปี และ นายนา อายุ 26 ปี เป็นชาว อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นแรงงานเข้ามารับจ้างถางหญ้าในไร่อ้อยให้กับนายนิกร ดาราศร โดยเข้ามารับจ้างทำงานแบบเช้ามาเย็นกลับ ตามช่องทางอนุโลม โดยขณะเกิดเหตุได้เกิดฝนตกหนักลมแรง และมีเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้อง ตลอดเวลาทำให้นายเดช และนายนา วิ่งเข้าไปหลบฝนในเพิงพักกลางทุ่ง ข้างบ่อน้ำติดกับไร่อ้อยที่ทั้งสองรับจ้างถางหญ้า แต่จู่ๆ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้เกิดฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นลงมาตรงบริเวณเพิงพักที่ชาวเขมรทั้งสองนั่งหลบฝนอยู่ ทำให้ชาวเขมรทั้งสองถูกฟ้าที่ผ่าลงมาโดนทั้งคู่ทำให้เสียชีวิตทันที หลังฝนหยุดจึงมีชาวบ้านเดินไปดูที่เพิงพัก จึงพบว่าแรงงานชาวเขมรทั้ง2คน เสียชีวิตแล้ว โดยมีโทรศัพท์มือถือสภาพพังยับตกอยู่ข้างๆ คาดว่าขณะฝนตกลมแรงแรงงานชาวเขมรอาจนำโทรศัพท์มือถือมากดเล่นเกม หรือไม่ก็อาจจะโทรศัพท์จึงทำให้ฟ้าผ่าลงมาที่โทรศัพท์จนทำให้เสียชีวิตทั้งคู่

หลังตรวจสอบเบื้องต้นแล้วจึงมอบศพแรงงานชาวเขมรทั้งสองให้มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ นำส่งไปพิสูจน์การเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้น ได้แจ้งกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อมาตรวจสอบและติดต่อญาติผู้ตายให้มารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในฝั่งกัมพูชาต่อไป