บลจ.-ตลาดลุยโรดโชว์นอกชูจุดเด่น บจ.ฟื้นตัว-ผลตอบแทนสูง

บลจ.-ตลาดลุยโรดโชว์นอกชูจุดเด่น บจ.ฟื้นตัว-ผลตอบแทนสูง

สมาคมบลจ.จับมือตลาดหลักทรัพย์ เจาะตลาดต่างประเทศ หวังดึงเงินไหลเข้าต่อเนื่อง เน้นประเทศดอกเบี้ยระดับต่ำ คาดเริ่มโรดโชว์ได้กลางเดือนก.ย.นี้

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดเดินทางให้ข้อมูลกับนักลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพราะมองว่าการที่ตลาดหุ้นไทยเติบโตที่ดีจะช่วยสร้างดึงดูดเงินทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนได้มากขึ้น

“ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีระดับอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำหรือติดลบ ซึ่งเงินในประเทศเหล่านั้นต้องหาแหล่งลงทุน ทั้งนี้ไทยมีการเติบโตที่ดี ทำให้เป็นโอกาสที่ไทยจะดึงเม็ดเงินเหล่านั้นเข้ามาลงทุนในประเทศ”

การไปโรดโชว์ต่างประเทศครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกที่สมาคมบลจ.จะออกไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างชาติ โดยข้อมูลที่จะนำเสนอนั้นจะนำภาพรวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวม พื้นฐานของประเทศไทย และการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยจะเริ่มในประเทศที่อยู่ใกล้เคียงก่อนคาดว่าจะเริ่มการโรดโชว์ครั้งแรกในกลางเดือนก.ย.นี้

สำหรับภาวะตลาดหุ้นในขณะนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เกิดจากการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาเห็นเม็ดเงินไหลออกจากตราสารหนี้มาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลการตอบรับการไปโรโชว์ในประทเศสหรัฐ ร่วมกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีนักลงุทนสถาบันเข้าพบเพื่อขอข้อมูลกว่า 52 กองทุน นักลงทุนสถาบันที่เข้าร่วมแบ่งเป็น 2 ส่วนคือกลุ่มที่เน้นการลงทุนระยะยาว และกลุ่มที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งในครึ่งนี้มี 11 บริษัท 

“นักลงทุนที่เข้ารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว และมีนักลงทุนบางส่วนที่เห็นผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวได้ดีในช่วงที่ผ่านมาให้ความสนใจและเข้ารับฟังข้อมูลด้วย ส่วนจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น เชื่อว่าจะต้องรอให้นักลงทุนนำข้อมูลดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ก่อนจะพิจารณาการลงทุนอีกครั้ง”

โดยคำถามที่นักลงทุนให้ความสนใจคือการเติบโตของผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน ซึ่งงบริษัทที่ร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้มีในหลายกลุ่มทั้งในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรับเหมาก่อสร้าง ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของภาครัฐบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังเติบโตได้ 

ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติได้ถามถึงภาคการส่งออกที่ชะลอตัวว่ามีมุมมองอย่างไร ซึ่งส่วนตัวได้ให้คำตอบไปว่าการส่งออกที่หดตัวในระดับ 2 % ในไตรมาสที่ 1 นั้นยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่ประสบปัญหาการส่งออกที่หดตัวมากกว่า 10 % ซึ่งเศรษฐกิจประเทศไทยมีการเติบโตทีด่ีและค่อนๆฟื้นตัว

นับตั้งแต่การลงประชามติอังกฤษออกจากอียู หรือเบร็กซิท ส่งผลให้เงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแล้วเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นร่วม 100 จุด และยังคงมีแนวโน้มที่เงินจะยังไหลเข้ามาอีก จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายๆ ประเทศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อรับมือกับเบร็กซิท

ขณะเดียวกันวานนี้ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ จัด “ตลาดนัดกองทุนรวมระหว่างวันที่ 22-24 ก.ค. นี้

นางรินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ระยะยาวการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมหุ้นจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน โดยจากสถิติ 10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า หุ้นและกองทุนรวมหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.37% ในขณะที่ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพประเภทหุ้นทุน (RMF - EQ) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 10-11% ดังนั้น สินทรัพย์เหล่านี้จึงมีความสำคัญกับการลงทุน

นางวรวรรณ่ กล่าวว่า สิ้นมิ.ย.59  มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวม 4,412,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.73% จากสิ้นปี 58  รวมทั้งมีเม็ดเงินลงทุนใหม่สูงกว่า 319,733 ล้านบาท ่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF เติบโตที่ประมาณ 5.8%