เปิดปูมแดงนอก 'เอนก ซานฟราน' กับคดีบึ้มศาลอาญา

เปิดปูมแดงนอก 'เอนก ซานฟราน' กับคดีบึ้มศาลอาญา

(รายงาน) เปิดปูมแดงนอก “เอนก ซานฟราน” กับคดีบึ้มศาลอาญา

ชื่อแกนนำแเดงนอกคนดัง กลับมาอยู่ในความสนใจของคนไทยอีกครั้ง เมื่อผู้ต้องหาคดีปาระเบิดศาลอาญา ให้การเชื่อมโยงกับ “เอนก ซานฟราน” โดยในเบื้องต้นระบุว่า ตัวเขาพำนักอยู่ในออสเตรเลีย

ต่อมา มนูญ (เอนก) ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว และไม่เคยรู้จักกลุ่มคนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัว และไม่เคยไลน์คุยกับใครทั้งสิ้น และไม่เคยรู้จักคนชื่อ “เดียร์”

นอกจากนี้ เอนกยังยืนยันว่า เขาอยู่ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ มานานหลายสิบปีแล้ว มิได้อยู่ออสเตรเลียตามที่ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอ้าง

เอนก ซานฟราน ชื่อนี้ไม่ใช่คนหน้าใหม่ของหน่วยงานความมั่นคง เขาถูกออกหมายจับ และถูกเรียกตัวเข้ารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาแล้ว

ก่อนที่จะมาทำความรู้จักกับเอนก ซานฟราน ก็อยากแนะนำให้รู้จัก “สหายร่วมรบ” ของเอนกกันสักนิด

ใครที่ได้ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของ “แดงใต้ดิน” ที่ใช้สื่อใหม่เผยแพร่แนวคิด “ประชาธิปไตยไม่มีนามสกุล” มาอย่างต่อเนื่อง ก็จะคุ้นชื่อเหล่านี้ อาทิ เอนก ซานฟราน, ดร.เพียงดิน รักไทย, อาคม ซิดนีย์, ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ และ วู๊ดไซด์ นิวยอร์ค

ระยะหลัง พวกเขาบันทึกคลิปวิเคราะห์สถานการณ์ และวิจารณ์สถาบันเบื้องสูงในนามมหาวิทยาลัยประชาชน ลองมาไล่ดูประวัติคร่าวๆ ของพวกเขา

ดร.เพียงดิน รักไทย (เสน่ห์ ถิ่นแสน) เป็นแกนหลักของมหาวิทยาลัยประชาชน ซึ่งในอดีต เสน่ห์เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทุนไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ และไม่ยอมกลับมาทำงานใช้ทุนคืนมหาวิทยาลัย

อาคม ซิดนีย์ (องอาจ ธนกมลนันท์) เดิมทีทำธุรกิจอยู่บางกรวย ตอนหลังไปอยู่ออสเตรเลีย โดยเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเสียง และให้เงินอุดหนุน “ดร.เพียงดิน” จัดรายการวิทยุออนไลน์  

ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ (ชูพงศ์ ถี่ถ้วน) เป็นชาวพังงา เข้ามาเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย มีความศรัทธาในแนวทางการต่อสู้ของ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เจ้าสำนักลัทธิประชาธิปไตย

วู๊ดไซด์ นิวยอร์ค (อำนวย แก้วชมภู) เป็นคนสนิทของเอนก ซานฟราน เป็นคนก่อตั้ง นปช.ยูเอสเอ และเมื่อ 3 ม.ค.2558 (เวลาท้องถิ่นนิวยอร์ค) มีการแจ้งข่าวว่า อำนวยเสียชีวิตแต่ไม่มีรายละเอียดการเจ็บไข้ได้ป่วย

สำหรับ เอนก ซานฟราน หรือ มนูญ (เอนก) ชัยชนะ เป็นเจ้าของร้าน King of Thai noodle ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และเขาให้ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางในการเคลื่อนไหวของ นปช.ยูเอสเอ

ปี 2555 เอนก ซานฟราน ได้จัดตั้งองค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ “ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน” (Thai Alliance for Human Rights) โดยเขานั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และมี ดร.เพียงดิน รักไทย (เสน่ห์ ถิ่นแสน) เป็นประธาน

ในปีเดียวกันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาสหรัฐฯ ก็ได้ใช้ร้านก๋วยเตี๋ยวของเอนก เป็นสถานที่พบปะกับกลุ่มคนเสื้อแดงในซานฟรานซิสโก และดร.เพียงดิน บอกกับสื่อมวลชนในท้องถิ่นว่า ภารกิจแรกๆ ขององค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน คือการช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ เพราะเป็นบุคคที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ถูกยึดอำนาจในช่วงที่ไม่ได้อยู่ในประเทศ

หลังการรัฐประหาร 2557 เอนก ซานฟราน มีรายชื่ออยู่หนึ่งใน 33 คดีพิเศษ ที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 คดี และมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 10 ตามประกาศคำสั่งให้มารายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 49/2557

เดือน มิ.ย.2557 เอนกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราว่า จะไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อ คสช.เด็ดขาด และขู่ที่จะฟ้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถึงการกระทำของ คสช.ในกรณีนี้ด้วย

“พวกเขามีสิทธิอะไรกับผมซึ่งเป็นพลเมืองประเทศอื่น เขากำลังจะเอากฎหมายแบบนี้มาใช้กับคนชาติอื่นอย่างนั้นหรือ”

สื่อมวลชนไทยในสหรัฐฯ เคยเขียนรายงานเรื่องเอนกกับคดีหมิ่นสถาบันว่า ตราบใดที่ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพยังพำนักอยู่ในสหรัฐฯ รัฐบาลไทยไม่สามารถจับกุมตัวได้ อีกทั้งผู้ต้องหาในคดีนี้ ไม่เข้าข่ายที่จะขอความร่วมมือจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้จับกุมและส่งตัวกลับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนได้

ส่วนกรณีคดีปาระเบิดศาลอาญา ที่ผู้ต้องหาชื่อ “เดียร์” ได้พาดพิงถึงชื่อ เอนก ซานฟราน จนตกเป็นข่าวใหญ่ในเมืองไทย อาจทำให้เขาเจอศึกหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นได้