'สามพรานโมเดล' ธุรกิจเชิงคุณค่า

'สามพรานโมเดล' ธุรกิจเชิงคุณค่า

ธุรกิจโรงแรมที่มุ่งเน้นการขาย ‘วิถีชุมชน’ ผ่านองค์ความรู้ของเกษตรอินทรีย์ ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

ธุรกิจโรงแรมที่มุ่งเน้นการขาย ‘วิถีชุมชน’ ผ่านองค์ความรู้ของเกษตรอินทรีย์ ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์ โดยการสนับสนุนของ สกว. เชื่อมโยงกับภาคชุมชน เกิดเป็นต้นแบบธุรกิจสีเขียวเพื่อความยั่งยืนและเป็นธรรม

“4 ปีที่แล้ว สามพราน ริเวอร์ไซด์เริ่มหันมาปลูกพืชผักผลไม้ ทำเกษตรอินทรีย์เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับใช้ในโรงแรม ที่สร้างความมั่นใจในคุณภาพ ไร่ แต่ความต้องการใช้พืชผลทางการเกษตรเหล่านี้มีมากกว่าที่ผลิตได้ จึงจำเป็นต้องหามาเพิ่ม” อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์กล่าวถึงที่มา

โครงการกลุ่มธุรกิจเชิงคุณภาพสามพรานจึงเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือของ 3 ส่วนคือ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาวิจัย และภาคท้องถิ่น

:: 3 ภาคีสร้างความยั่งยืน

ความต้องการใช้ผัก 4 ตัน ผลไม้ 3 ตันต่อเดือน พื้นที่การเกษตรของสามพรานริเวอร์ไซด์ยังผลิตได้ไม่เพียงพอ เมื่อไปลงพื้นที่รอบๆ โรงแรม ก็พบว่า เป็นการเกษตรที่ใช้สารเคมีทั้งหมด

“ตอนนั้น เราเริ่มเข้าหาเกษตรกรเพื่อหวังให้เขาเข้าร่วมทำเกษตรอินทรีย์ แต่ช่วงแรกลำบากมาก เพราะการเกษตรแบบพึ่งพาสารเคมีนั้น ต้นทุนถูก ทำง่าย และมีตลาดรองรับ ในขณะที่เกษตรอินทรีย์ เกษตรกรจำภาพของภาครัฐที่เข้ามาทำโครงการต่าง ๆ แล้วลอยแพ ไม่ไปถึงปลายทาง” นายอรุษชี้

ปัญหาหลักครั้งนี้คือ อุปสงค์-อุปทานไม่ตรงกัน ชาวบ้านอยากลดละเลิกใช้สารเคมีเพื่อสุขภาพของตนเอง อยากทำเกษตรอินทรีย์แต่ไม่มีตลาดขาย ในขณะที่ลูกค้าหรือผู้บริโภคก็ต้องการซื้อพืชผักอินทรีย์แต่ราคาสูงเกินกว่าจะจ่ายไหว

การวิจัยเชิงปฏิบัติการจึงเกิดขึ้น เพื่อพัฒนาสังคมเกษตรอินทรีย์ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ในขณะเดียวกันก็ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนสามพราน ผ่านกระบวนการวิจัยทดลองสร้างความร่วมมือระหว่างธุรกิจโรงแรมและกลุ่มเกษตรกร โดยมีภาคการศึกษาวิจัยเป็นพี่เลี้ยง ให้องค์ความรู้ ด้วยทุนวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยหรือ สกว.

ผลการวิจัยออกมาในรูปชุดความรู้ด้านการจัดการตลาดชุมชน พัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรปลอดภัยและมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ร่วมกับภาคี ในขณะเดียวกันก็เกิดเป็น “สามพรานโมเดล” ธุรกิจร่วมกับชุมชนผ่านตลาดต้นแบบในชื่อ ตลาดสุขใจ เป็นพื้นที่ให้เกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าอินทรีย์มาพบกัน

กลายเป็นสังคมที่เกื้อกูลกันทั้งองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ตลาดกลางซื้อขายสินค้าอินทรีย์ และสังคมแห่งความยั่งยืน

ผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ชี้ว่า ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี จนเกิดการยอมรับในวงกว้าง เกษตรกรมากกว่า 200 รายเข้าร่วมโครงการ โดยครอบคลุมข้าว ผักและผลไม้ นายอรุษเผยว่า มีราว 70 รายที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (IFOAM) ถือเป็นกลุ่มเกษตรกรนำร่อง

:: พาเกษตรอินทรีย์เข้าเมือง

ตลาดสุขใจในมุมมองของอรุษกำลังไปได้ดี แม้จะเปิดเพียงเสาร์-อาทิตย์ แต่มีคนมาเที่ยวและจับจ่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ มากกว่า 700 คนต่อวัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรไม่ต่ำกว่าเดือนละ 3 หมื่นบาท โดยที่วันอื่น ก็สามารถไปขายที่อื่นๆ สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

“ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มมองหาสินค้าเกษตรอินทรีย์ ที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมองว่าราคาสูง เนื่องจากมีน้อย ซึ่งหากเราสามารถทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์มีราคาที่ถูกลง คนพร้อมจ่าย เพื่อพืชผักที่ไม่มีสารเคมี จึงเกิดเป็นไอเดียในการต่อยอดผลผลิตที่มีสู่โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพ”

ผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ชี้ว่า การส่งต่อชุดความรู้ด้านการจัดการตลาดชุมชนไปสู่โรงแรมต่าง ๆ เป็นการเชื่อมโรงแรมเข้ากับเกษตรกร สร้างตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นห่วงโซ่สั้นๆ ที่ระยะทางไม่ไกลจากพื้นที่เกษตรกรรมมากนัก ซึ่งกรุงเทพตอบโจทย์ทั้งระยะทางและจำนวนประชากรกว่า 10 ล้านคน ที่เกษตรอินทรีย์จะเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ เขายังมีแผนจะนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์เข้าไปหาลูกค้าโดยตรงผ่านโครงการ “สุขใจสัญจร” ที่จะขนสินค้าปลอดสารไปหากลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นพนักงานออฟฟิศ คาดจะเริ่มเดือนตุลาคมนี้ และอยู่ระหว่างการวางแผนหาสถานที่ และบริหารจัดการผลผลิตที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

“สามพรานได้อะไร ต้องอบกว่า เราได้รางวัล ได้การประชาสัมพันธ์ แต่ที่สำคัญคือ เราได้ผลผลิตที่ดีสำหรับลูกค้าโรงแรม เราได้ทำตามแนวคิดของโรงแรมคือ การขายวิถีชีวิต วิถีชุมชน คือ โรงแรมและ ชุมชนรอบโรงแรมอยู่ได้อย่างยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดี” อรุษย้ำ

ยอดขายของโรงแรมถือเป็นผลพลอยได้ ที่อรุษเผยว่า สามพรานโมเดลส่งผลให้โรงแรมมีลูกค้ากลุ่มสัมมนาเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรีน, อาหารปลอดภัย, การพัฒนาชุมชน และเกษตรอินทรีย์ อย่างไรก็ดี วิกฤตต่างๆ ในปี 2557 นี้ ทำให้ครึ่งปีแรกผลประกอบการเท่าเดิม ไม่ขาดทุน

“ด้วยความแตกต่างของสามพรานโมเดล จะทำให้เราโดดเด่น เหนือคู่แข่ง และเติบโตไปพร้อมกับความเข้มแข็งของชุมชนสามพราน” ผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ ทิ้งท้าย