'ทหารจิ๋นซี' ยาตราทัพ....จากซีอานถึงกรุงเทพฯ

'ทหารจิ๋นซี' ยาตราทัพ....จากซีอานถึงกรุงเทพฯ

ไม่ต้องเสียเงินบินไปไกลถึงซีอาน หุ่นทหารดินเผาจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้มาจัดแสดงให้ชมกันถึงประเทศไทยยาวนาน 3 เดือน

หากมีการจัดอันดับ ‘การค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก’ ไม่ว่าจะโดยสำนักใดหรือสถาบันใดก็ตาม จะต้องมี ‘การขุดพบสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้’ รวมอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งนั่นเป็นเครื่องการันตีความยิ่งใหญ่ และความสำคัญของแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

            นับว่าเป็นโชคดีของชาวไทยที่มีใจชื่นชอบในเรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี เพราะกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำโบราณวัตถุจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เมืองซีอาน ประเทศจีน มาจัดแสดงให้ได้ชมกันครั้งแรก แถมยังจัดขึ้นเป็นเวลายาวนานถึง 3 เดือน ในนิทรรศการพิเศษเรื่อง ‘จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา’

ป้ายประชาสัมพันธ์

            ภายในงานมีการนำโบราณวัตถุอายุกว่า 2,700 ปี จากสุสานดังของเมืองจีน 2 แห่ง คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ และสุสานราชวงศ์ฮั่น จำนวน 86 รายการ 133 ชิ้น ในจำนวนนี้เป็นโบราณวัตถุชั้นเยี่ยม 17 รายการ มาจัดแสดงให้ชมกัน ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15 กันยายน - 15 ธันวาคม 2562 เวลา 09.00 น. - 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ - อังคาร) โดยคนไทยเสียค่าเข้าชมเพียง 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท

            แต่ก่อนจะไปชมนิทรรศการที่หาดูได้ยากนี้ เรามาทบทวนความสำคัญ และความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของ จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิ์องค์แรกที่รวบรวมประเทศจีนอันกว้างใหญ่ไพศาลให้เป็นปึกแผ่น และกองทหารดินเผาในสุสานหลวงของพระองค์กันก่อน

 

ตื่นจากหลับไหล 2 พันปี

            ถึงแม้ว่า ซือหม่า เชียน นักประวัติศาสตร์หลวงของจีนซึ่งมีอายุอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮั่น จะเขียนเอาไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ (สื่อจี้) ว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้สร้างสุสานหลวงของพระองค์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมบรรจุแก้วแหวนเงินทองเอาไว้มากมาย ทว่ากลับไม่เคยมีใครพบที่ตั้งของสุสานหลวงแห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่า 2 พันปี

จนกระทั่งในปี ค.ศ.1974 ชาวไร่ชื่อ หยาง จื้อฝา กับพี่น้อง 5 คน และเพื่อนบ้านชื่อ หวัง ปูจื้อ ขุดบ่อน้ำอยู่ในสวนพลับนอกเมืองซีอาน มณฑลส่านซี แล้วไปเจอโบราณวัตถุเข้าจึงแจ้งให้ทางการทราบ ทางการได้ส่งนักโบราณคดีเข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่าสิ่งที่ชาวไร่ผู้นี้เจอไม่ใช่แค่โบราณวัตถุธรรมดา แต่มันคือส่วนหนึ่งของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้อันเกรียงไกร จนได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก เพราะภายในสุสาน (ที่ถูกขุดค้นไปเพียงบางส่วนเท่านั้น) ประกอบด้วยทหารดินเผาขนาดเท่าคนจริงถึง 8,000 ตัว ม้าดินเผา 520 ตัว รถม้าสำริด 130 คัน นอกจากนี้ยังพบดาบ หัวธนู และอาวุธอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในสภาพดี ตลอดจนสมบัติมีค่าอีกมากมาย

Qin_Kneeling_armoured_2

  Qin_General_1

Qin_General_2

แต่ที่น่าทึ่งที่สุดคือ หุ่นทหารดินเผาที่ดูมีชีวิตชีวาราวกับสามารถตื่นจากการหลับไหลยาวนานกว่าสองพันปีแล้วจับอาวุธขึ้นมาทำการสู้รบได้นั้น มีสีหน้าท่าทาง ตลอดจนการแต่งกายไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละตัว ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางโบราณคดีที่จะบอกเราว่าทหารจีนในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล แต่งกายยังไง และใช้อาวุธอะไรในการสู้รบ

 

จักรพรรดิ์จีนพระองค์แรก

ความยิ่งใหญ่จนโลกตะลึงของสุสานจิ๋นซีที่ถูกค้นพบไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจหากนึกถึงความเกรียงไกร และคุณูปการที่พระองค์ทรงสร้างเอาไว้ให้กับประเทศจีน

จิ๋นซีฮ่องเต้มีนามเดิมว่า อิ๋งเจิ้ง ถือกำเนิดในปลายยุคจ้านกว๋อ หรือยุคสงครามที่จีนแตกออกเป็นรัฐใหญ่ 7 รัฐ ได้แก่ หาน จ้าว เว่ย ฉู่ เยียน ฉี และฉิน เมื่อท่านก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าผู้ครองรัฐฉินขณะมีพระชนมายุเพียง 13 พรรษา ท่านได้ทำให้รัฐฉินเจริญรุ่งเรืองจนสามารถผนวกรัฐอื่น ๆ เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ พร้อมสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็น จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิ์องค์แรกของจีน

สำหรับคุณูปการที่จิ๋นซีฮ่องเต้ทรงสร้างเอาไว้ให้แผ่นดินจีนนั้นมีตั้งแต่ ปฏิรูประบบการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง พัฒนาเทคโนโลยีการสงคราม มีการกำหนดมาตราชั่ง ตวง วัด ระบบเงินตรา และภาษาเขียนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงทรงมีพระบัญชาให้เชื่อมแต่ละรัฐด้วยคูคลอง และถนนอย่างเป็นระบบ ตลอดจนทำการเชื่อมต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูทางภาคเหนือ จนกลายเป็นกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

 

อภิมหาสุสานกษัตริย์

หากใครเป็นคอประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ชอบดูหนังดูละครอิงประวัติศาสตร์คงจะทราบดีว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ทรงมีความปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะมีชีวิตเป็นอมตะถึงขั้นส่งข้าราชบริพารออกไปเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะมาถวาย

การสร้างสุสานอันใหญ่โตที่เพียบพร้อมไปด้วยทหารหลายพันนาย ข้าราชบริพาร ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ และทรัพย์สมบัติอันมีค่า ก็แสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมเอาไว้สำหรับชีวิตหลังความตายของพระองค์นั่นเอง จากบันทึกประวัติศาสตร์ที่ ซือหม่า เชียน เขียนเอาไว้ระบุว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้สร้างสุสานหลังจากขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน โดยมีการเกณฑ์คนงานถึงกว่า 7 แสนคน

 

กองทหารดินเผาอันเกรียงไกร

ปัจจุบัน สุสานจิ๋นซีได้รับการขุดค้นไปแล้ว 4 หลุม โดยทหารดินเผาอันเลื่องชื่อที่ยืนเรียงรายกันอยู่เป็นกองทัพนั้นจะอยู่ในหลุมขุดค้นที่ 1 ทหารเหล่านี้จะมีขนาดเท่าคนจริง คือถ้าเป็นพลทหารจะมีความสูงประมาณ 170-190 เซ็นติเมตร แต่ถ้าเป็นระดับผู้บังคับบัญชาจะมีความสูง 200 เซ็นติเมตร อยู่ในท่าพร้อมรบ มือถืออาวุธทำจากโลหะสำริดที่ยังคงอยู่ในสภาพดีจนน่าอัศจรรย์

สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ สีหน้าท่าทาง และการแต่งกายของทหารเหล่านี้จะไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นหนวดเครา การคาดเข็มขัด ฯลฯ สำหรับวิธีสร้างทหารดินเผานั้นจะมีการหล่อแบบขึ้นเป็นชิ้น ๆ นำมาประกบติดกันแล้วยาด้วยดินก่อนจะนำเข้าไปเผาทั้งตัว ซึ่งผลการวิเคราะห์โดยการอาบนิวตรอน (Neutron Activation Analysis) พบว่าทหารดินเผาเหล่านี้สร้างขึ้นจากเตาเผาหลายแห่งที่กระจายอยู่ในอาณาบริเวณนั้น แม้ว่าจนถึงตอนนี้จะยังไม่มีการค้นพบเตาเผาเลยก็ตาม

Qin _Armoured_general_1

Qin_Armoured_general_2

Qin_Armoured_warrior_2

หลังจากเผาเสร็จ หุ่นพวกนี้จะถูกเคลือบด้วยแลคเกอร์ 2 ชั้น แล้วทาสีสดใสซึ่งน่าเสียดายว่าปัจจุบันได้ถูกอากาศและความชื้นทำให้ลบเลือนไปหมดแล้ว

 

ปริศนาหลุมพระศพ

แม้โลกจะตะลึงเป็นอย่างมากกับการค้นพบกองทัพดินเผา แต่จริง ๆ แล้วห้องฝังพระศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของสุสานยังไม่ถูกขุดค้นด้วยซ้ำ โดยปูมประวัติศาสตร์ของซือหม่า เชียน ระบุเอาไว้ว่าภายในห้องฝังพระศพเต็มไปด้วยแบบจำลองพระราชวัง และพระตำหนักต่าง ๆ รวมถึงภาชนะอันวิจิตร และหินมีค่าหายาก

            แต่สิ่งที่ฟังดูอลังการ ทำให้คนปรารถนาจะได้เห็นมากที่สุดคือการจำลองภูมิประเทศแถบนั้นโดยใช้ปรอทมาทำเป็นแม่น้ำลำธารไหลผ่านหุบเขาที่ทำจากสำริด หินมีค่าอย่าง ไข่มุก ถูกนำมาใช้แทนพระอาทิตย์ พระจันทร์ และหมู่ดาวต่าง ๆ

ที่น่าสนใจคือ ผลการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่หลายครั้งยืนยันตรงกันว่าดินบริเวณสุสานจิ๋นซีมีความหนาแน่นของปรอทสูงผิดปรกติ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ซือหม่า เชียน บันทึกเอาไว้อาจจะเป็นจริงเพราะเขามีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮั่นซึ่งครองอำนาจต่อจากราชวงศ์จิ๋น เรียกว่าไม่ได้ห่างกันกันนัก

            นอกจากนี้ นักโบราณคดีจีนยังใช้เทคโนโลยีตรวจจับระยะไกล (remote-sensing) มาสำรวจเนินดินที่คาดว่าจะเป็นห้องฝังพระศพจิ๋นซีด้วย และพบว่ามีห้องใต้ดินที่มีผนังลักษณะคล้ายบันได 4 ด้านอยู่จริง แล้วการทดลองขุดหลุมรอบห้องฝังพระศพก็พบรูปปั้นนางระบำ นักดนตรี นักกายกรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา กำลังออกท่าทางในการแสดงฝังไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางการจีนระงับการขุดค้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นห้องฝังพระศพจิ๋นซีไว้ก่อนเพราะเกรงว่าหากเปิดหลุมออกแล้วอากาศจะเข้าไปทำให้สิ่งของภายในสุสานเสียหาย

                                                …………………………

 สุสานจิ๋นซี ในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี 1987 และถือเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกำแพงเมืองจีน โดยในแต่ละปีจะมีคนไปเยี่ยมชมการขุดค้นกองทัพดินเผานี้ถึงกว่า 1.5 ล้านคน

สำหรับในต่างประเทศนั้น ทางการจีนก็ไม่ได้อนุมัติให้นำทหารดินเผาจากสุสานจิ๋นซีซึ่งเป็นโบราณวัตถุอันล้ำค่าของประเทศออกไปจัดแสดงได้โดยง่าย ดังนั้น ถือเป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่งที่คนไทยไม่ต้องบินไปไกลถึงเมืองซีอาน เพื่อไปดูสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีมาให้ดูกันถึงบ้านเราแบบนี้

 

ส่วนหนึ่งของโบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดง

รูป : กรมศิลปากร

รถม้าสำริด ราชวงศ์จิ๋น

หน้าไม้ ราชวงศ์จิ๋น

1

  หมูป่าสมัยราชวงศ์ฮั่น

  หญิงรับใช้ดินเผาระบายสี ศิลปะสมัยราชวงศ์ฮั่น

  ชายเลี้ยงม้าดินเผา ราชวงศ์ฮั่น

  12

Han_Gilt_door_knocker

Zhou_Gold_Tiger

Zhou_Gult_door

รูปคน ราชวงศ์ฮั่น

กระจกสำริด ราชวงศ์ฮั่น

Hu ภาชนะบรรจุน้ำสมัยราชวงศ์โจว

Zhou_Gui

Qin_Stone_armour