'มนุษย์ต่างดาว' กับแฟนพันธุ์แท้ชาวอเมริกัน

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ข่าวฮอตฮิตติดอันดับหนึ่งอยู่หลายวันคือ ข่าวร่างทรงของสำนักปฏิบัติธรรม ‘เขากะลา’ ที่จังหวัดนครสวรรค์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สามารถเชิญ ‘มนุษย์ต่างดาว’ ให้ประทับร่างทรงได้ พร้อมทำนายดวงชะตาโลกว่าจะถึงกาลวิบัติในปี 2020 นอกจากนั้น ยังอ้างว่า สามารถติดต่อมนุษย์ต่างดาวให้ลงมาที่สำนักปฏิบัติธรรมได้อีกด้วย ในเนื้อข่าวระบุว่า มีหลายคนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่เมื่อเรื่องราวถูกแพร่ออกไปทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ต้นตอของการให้ข่าวก็หายตัวไปและเจ้าหน้าที่ตัดสินใจบุกค้นสำนักปฏิบัติธรรมนี้ ซึ่งน่าจะยืนยันได้ว่านี่เป็น ‘ข่าวลวง’

ความเชื่อและความสงสัยถึงความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่นอกเหนือจากบนโลกของเรามีมานานแล้ว การอ้างว่า มีการเห็นวัตถุที่น่าสงสัยบนท้องฟ้าหรือ ‘ยูเอฟโอ’ หลายต่อหลายแห่งในหลายประเทศทั่วโลกยิ่งช่วยกระพือโหมความเชื่อของกลุ่มคนที่เชื่อว่า ยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง บางคนถึงกับอ้างว่า พวกเขาเคยถูกมนุษย์ต่างดาวหรือเอเลี่ยนลักพาตัวไปอีกด้วย ในขณะที่ กลุ่มคนที่ไม่เชื่อก็จะหัวเราะเยาะว่า ที่เห็นบินไปบินมาบนท้องฟ้านั้น น่าจะเป็น บอลลูน เครื่องบิน เมฆ การทดลองลับทางทหาร รวมทั้งโดรน นอกจากนั้น พวกเขายังพูดอีกว่า ยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวมีแต่ในนวนิยายและภาพยนตร์เท่านั้น

ความแตกต่างกันทางความคิดในเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลกเพราะจนถึงทุกวันนี้ เพราะยังไม่มีใครมีหลักฐานมาที่พิสูจน์ได้ว่า มีมนุษย์ต่างดาวและจานบินจริงหรือไม่ แม้แต่ ‘นาซ่า’ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐก็ยังไม่เคยออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ ที่ผ่านมานาซ่าแถลงแต่เพียงว่า “พบวัตถุต้องสงสัยบนท้องฟ้า” แต่ไม่เคยบอกว่า ใช่จานบินจากนอกโลกหรือไม่

คำว่า ‘ยูเอฟโอ’ UFO มาจาก Unidentified Flying Objects หรือวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุที่มาได้ กองทัพอากาศสหรัฐบัญญัติคำนี้เมื่อประมาณปี 1953 แต่ต่อมา คำนี้กลายเป็นที่รู้จักกันว่า หมายถึงจานบินลึกลับบนท้องฟ้าและขับเคลื่อนโดยมนุษย์ต่างดาว

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่มีการค้นคว้าเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ผู้คนในหลายรัฐก็มีการกล่าวอ้างว่า เห็นยูเอฟโอบินบนท้องฟ้า แต่รูปที่พวกเขาถ่ายมาส่วนใหญ่ก็จะไม่ชัดและไกล ทำให้เรื่องนี้ยังเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ นักวิเคราะห์ของเว็บไซต์ SatelliteInternet รวบรวมข้อมูลจากศูนย์รายงานการเห็นยูเอฟโอแห่งชาติและสำนักประชากรสหรัฐอเมริกา คริสติน คุกเก้ กล่าวว่า เว็บไซต์เปรียบเทียบจำนวนของการเห็นของยูเอฟโอของคนในแต่ละรัฐกับจำนวนประชากรในรัฐนั้น และพบว่า 5 รัฐที่มีคนอ้างว่าเห็นยูเอฟโอมากที่สุด คือ วอชิงตัน มอนทาน่า เวอร์มอนต์ อลาสก้าและเมน

ความเชื่อเรื่องยูเอฟโอแพร่หลายจนถึงกับตั้งให้มี วันยูเอฟโอโลก ในวันที่ 2 กรกฎาคมของทุกปี เพื่อทำให้คนตระหนักว่า ยูเอฟโอและสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดนอกโลกมีอยู่จริง ชาวโลกควรจะคิดถึงความเป็นไปได้ที่ไม่ได้มีแค่พวกเราเท่านั้นในจักรวาลนี้ ยูเอฟโอแฟนคลับที่มีอยู่ทั่วโลกยังเรียกร้องให้ รัฐบาลออกมาเปิดเผยรายงานลับ (ที่พวกเขาคิดว่าโดนปกปิดไว้) เกี่ยวกับการเห็นวัตถุบินนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้

ในวันยูเอฟโอโลกนี้ มีการเฉลิมฉลองมากมาย องค์กร WUFODO ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานนี้ให้สัมภาษณ์ว่า “ในวันนี้ พวกเราควรมองขึ้นบนท้องฟ้าและมองหายูเอฟโอ ทุกคนควรเปิดใจให้กว้างและส่งสารออกไปว่า โลกนี้ต้อนรับยูเอฟโอ” ก่อนหน้านี้มีการจัดงานยูเอฟโอโลกในวันที่ 24 มิถุนายนซึ่งเป็นวันที่ เคนเนธ อาร์โนลด์ นักบินเอกชนคนหนึ่งอ้างว่า เขาเห็นยูเอฟโอ 9 ลำบินเหนือรัฐวอชิงตัน แต่ WUFODO มาเปลี่ยนเป็นวันที่ 2 กรกฎาคม

สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องยูเอฟโอ การอ้างว่าเห็นยูเอฟโอที่นั่นที่นี่เป็นเรื่องตลกหลอกเด็ก แต่เมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดหลังจากมีรายงานที่น่าเชื่อถือว่า นักบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาเห็นยูเอฟโอในระหว่างลาดตระเวนช่วงระหว่างหน้าร้อนปี 2014 และฤดูใบไม้ผลิ 2015 แหล่งข่าวในกองทัพเรือกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า “กองทัพกำลังสอบเรื่องนี้ แต่ไม่เชื่อว่าจะมีมนุษย์ต่างดาวมาบินเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ” ซึ่งเขายอมรับว่า มีรายงานเกี่ยวกับมีวัตถุบินที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่รู้ที่มารุกล้ำเข้ามาในเขตทหาร หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ยังอ้างข้อมูลจากนักบินของกองทัพเรือจำนวนหลายนายว่า พวกเขาเคยเผชิญหน้ากับยานยูเอฟโอที่ปราศจากเครื่องยนต์และยูเอฟโอที่ว่านี้สามารถบินได้สูงกว่า 30,000 ฟุตและด้วยความเร็วเหนือเสียง

Politico ซึ่งเป็นสื่อของสหรัฐฯ รายงานเมื่อเมษายนที่ผ่านมาว่า หลังจากที่มีรายงานการเห็นยูเอฟโอมากขึ้น กองทัพเรือสหรัฐต้องมีการออกแนวทางการรายงานการเห็นยูเอฟโอใหม่

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายคนถูกตั้งคำถามว่า เคยได้รับการรายงานลับเรื่องยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ เพราะสหรัฐฯ มีเทคโนโลยีและความก้าวหน้าด้านอวกาศอย่างมาก เช่น บารัค โอบามา เขาเคยให้สัมภาษณ์นิตยสารจีคิวเมื่อปี 2015 ว่า คนชอบถามเขาเรื่องรายงานลับนี้ “ผมอยากจะบอกว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังมากเพราะรายงานลับที่ว่านั้นไม่น่าตื่นเต้นอย่างที่พวกคุณคาดหวังไว้” 

แต่สำหรับอดีตประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ เขาเคยให้สัมภาษณ์พิธีกรชื่อดัง ลาร์รี่ คิง ว่าเขาเองเคยเห็นยูเอฟโอ “ตอนนั้น มีพวกเราประมาณ 20 คนยืนอยู่ด้านนอกภัตตาคารเล็กๆ แห่งหนึ่ง อยู่ดีๆ ก็มีอะไรบางอย่างเหมือนแสงสีเขียวปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าด้านตะวันตก ตอนนั้นพระอาทิตย์ตกไปแล้ว แสงนั้นจ้ามากขึ้นทุกที แต่แล้วมันก็หายไป ไม่มีใครรู้ว่า นั่นคืออะไร”

เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันถูกถามเรื่องนี้ เขาว่า เขาก็สงสัยอยู่เหมือนกัน “ผมคิดว่า ก็น่าสงสัยอยู่นะ อาจจะใช่ (ยูเอฟโอ) ก็ได้นะ คนมักถามผมเรื่องนี้ ผมเชื่อเรื่องนี้ไหม ผมว่า ก็ไม่เชื่อซะทีเดียว” เมื่อพิธีกรในรายการของเอบีซีถามทรัมป์ว่า ถ้ามีการพบชีวิตนอกจักรวาล จะมีการรายงานให้เขาทราบไหม เขาตอบว่า “เรากำลังเฝ้าดูเรื่องนี้อยู่และจะบอกคุณเป็นคนแรก”

ตอนนี้ ข่าวมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาของไทยหายไปจากความสนใจแล้ว แต่พวกติ่งมนุษย์ต่างดาวที่สหรัฐฯ กำลังเฝ้ารอคอยงาน 'บุกแอเรีย 51, พวกเขาไม่มีทางหยุดเราได้' (Strom Area 51, They Can’t Stop All of Us) ในวันที่ 20 กันยายน กิจกรรมนี้ชักชวนให้คนมาร่วมบุกแอเรีย 51 ซึ่งเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่กลางทะเลทรายในรัฐเนวาด้าเพื่อพิสูจน์ข่าวลือที่ว่า ฐานทัพนี้เป็นที่เก็บซากยูเอฟโอซึ่งตกลงมายังพื้นโลกและร่างของมนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลก

แอเรีย 51 นี้เป็นชื่อไม่เป็นทางการของสนามบินโฮเมย์ (Homey Airport) ห่างจากเมืองลาสเวกัสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 134 กิโลเมตร กองทัพอากาศสหรัฐฯอ้างว่า ภารกิจหลักของแอเรีย 51 คือ การเป็นสถานที่ทดสอบอาวุธ และฝึกทหารแบบพิเศษของกองทัพ กิจกรรมต่างๆ ของที่นี่ถูกจัดลำดับให้เป็นความลับขั้นสูง เหมือนๆ กับฐานทัพทุกที่ของสหรัฐฯ 

แอเรีย 51 เริ่มเป็นที่สนใจในปี 1955 หลังจาก สหรัฐฯ ใช้พื้นที่นี้ทดสอบเครื่องบินประเภท Lockheed U-2 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น กิจกรรมทั้งหมดของแอเรีย 51 ถูกทางกองทัพฯ ปิดบังจากสาธารณชนมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ฐานทัพนี้เป็นข่าวลือมาตลอด กองทัพอากาศเพิ่งออกมายอมรับการมีอยู่ของสถานที่นี้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี้เอง ตอนนี้พื้นที่รอบๆ แอเรีย 51 ก็กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่อยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้

ข่าวเรื่องกิจกรรมบุกแอเรีย 51 นี้ได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้ลงชื่อกว่า 2 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่พักในละแวกนั้นเต็มหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ แม็ตตี้ โรเบิร์ตส ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีของกิจกรรมนี้ในเฟซบุ๊คออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “กิจกรรมนี้เป็นเรื่องสนุกๆ เท่านั้น ไม่ได้คิดจะบุกฐานทัพสหรัฐฯ จริงๆ หรอก” ในขณะที่ โฆษกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ต้องรีบออกมาเตือนว่า แอเรีย 51 เป็นพื้นที่ทหารและพร้อมจะปกป้องทรัพย์สินของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่

แต่ผลกระทบจากกิจกรรมนี้ยังไม่จบ เพราะแม็ตตี้วางแผนที่จะเปลี่ยนการบุกแอเรีย 51 นี้เป็นเทศกาลดนตรี ‘เอเลี่ยนสต็อก’ (Alienstock) ที่เขาว่า จะติดดินอย่างมากเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าร่วมและเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนตระหนักว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตนอกจักรวาล เขามองเมืองเล็กๆ ชื่อ เรเชล ที่มีพลเมืองเพียงแค่ 98 คนเท่านั้นเพื่อจัดงานดนตรี แต่ดูเหมือนว่า เมืองเล็กๆ นี้ไม่พร้อมจะให้จัดงานนี้ พวกเขาว่า จะไม่ยอมให้เข้ามาใช้เมืองของพวกเขาเพื่องานนี้อย่างเด็ดขาด

เว็บไซต์ของเมืองโพสต์ข้อความว่า “อย่ามายุ่งกับเมืองเรเชลของพวกเรา พวกเราส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ใช้เมืองของเราเป็นที่จัดงานและจะตอบโต้อย่างแน่นอน" เว็บไซต์ยังเขียนต่ออีกว่า “คนเมืองเรเชลไม่ได้รับการบอกเล่าหรือขออนุญาตจากผู้จัดงานนี้ พวกเราไม่เห็นด้วยและจะไม่ยอมให้มีกิจกรรมนี้ ถ้าใครอยากจะจัดต้องเจอกับการดำเนินการทางกฎหมาย” ข้อความยาวเหยียดในเว็บไซต์นี้พยายามที่จะผู้จัดงานเลิกความคิดนั้นเสีย

The Little A’Le’Inn ที่พักแห่งเดียวของเมืองเรเชลดูจะอยากต้อนรับเทศกาลดนตรีนี้ ในเว็บไซต์ของที่นี่โหมโฆษณาพื้นที่ที่สามารถตั้งแคมป์ได้สำหรับสาวกยูเอฟโอ เจ้าหน้าที่ของเมืองเรเชลกล่าวว่า ที่พักแห่งนี้ถูกจองเต็มหมดแล้ว แต่เมืองไม่มีแก๊สหรือร้านค้าที่สามารถรองรับคนเป็นจำนวนมากได้

แต่แม็ตตี้ก็ยังมั่นใจว่า จะใช้เมืองนี้จัดงานให้กับบรรดาสาวกยูเอฟโอทั้งหลายได้อย่างแน่นอน “เราอยากสร้างบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ที่เมืองนี้ ให้เป็นที่พบปะของผู้ที่มีความเชื่อเรื่องยูเอฟโอทั้งหลาย เราวางแผนที่จะจัดงาน 3 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน แฟนๆ ควรมาตั้งแต่วันที่ 19 เพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่พลาดงานนี้ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้เลย” แม็ตตี้เขียนไว้ในเฟซบุ๊คของเขา

เทศกาลดนตรีของแม็ตตี้ได้รับความสนใจจากหลายฝ่ายแสดงความสนใจอยากมาเข้าร่วมงาน ตอนนี้ชื่อวงดนตรีที่จะมาร่วมงานยังไม่ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ที่ออกมาประกาศว่าจะเข้าร่วมคือ บริษัทที่สร้างความบันเทิงด้วยการมีนักเต้นเปลื้องผ้า ในข่าวยังไม่ระบุชื่อบริษัทดังกล่าว

สำหรับสาวกยูเอฟโอชาวไทย แม้ในรายละเอียดจะต่างออกไปบ้าง แต่ถ้าใครอยากไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์อาจลองหาโอกาสไปศึกษาดูงานได้