Chow Tai Fook Jewellery เปิดตัว 'นิวอิมเมจสโตร์' แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ

Chow Tai Fook Jewellery แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำจากจีนที่มีประวัติยาวนานกว่า 96 ปี รุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัว "นิวอิมเมจสโตร์" แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ
Chow Tai Fook Jewellery Group แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำจากจีนที่มีประวัติยาวนานกว่า 96 ปี เดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นกลยุทธ์สำคัญในช่วงนี้
Chow Tai Fook Jewellery ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1929 ณ เมืองกว่างโจว แบรนด์เป็นผู้บุกเบิกการนำเสนอเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 999.9 รายแรกในฮ่องกงและมาเก๊า อีกทั้งยังเป็นบริษัทจีนรายแรกที่ได้รับสถานะผู้จัดซื้อเพชรระดับ "Sightholder" จาก De Beers ปัจจุบันมีสาขากว่า 6,000 แห่งทั่วโลก ติดดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง และอยู่ในอันดับที่ 7 ของรายงาน Deloitte Global Powers of Luxury Goods 2023. ซึ่งเป็นแบรนด์จีนเพียงรายเดียวในกลุ่มท็อป 10
ท่ามกลางความผันผวนของราคาทองคำ และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แบรนด์เครื่องประดับระดับตำนานกว่าเกือบศตวรรษแห่งนี้ได้เริ่มต้นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมสู่บทใหม่ขององค์กร
ในโอกาสดังกล่าว Chow Tai Fook Jewellery จึงได้เชิญสื่อมวลชนไทยเยี่ยมชม Shunde Production Hub และ New Image Store ที่เมืองเซินเจิ้น เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าที่ทำให้แบรนด์รักษาความเป็นผู้นำด้านเครื่องประดับมายาวนาน พร้อมสร้างความคาดหวังต่อการเปิดตัว New Image Store แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ
นวัตกรรมผสานงานฝีมืออันประณีต
Shunde Production Hub ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1988 สะท้อนหลักการสำคัญของแบรนด์ "ผสานงานฝีมือชั้นสูงเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย" อันเป็นเอกลักษณ์และชื่อเสียงระดับนานาชาติของ Chow Tai Fook Jewellery
แบรนด์มีชื่อเสียงด้านดีไซน์โดดเด่นและงานผลิตที่ละเอียดประณีต โดยใช้วัสดุคุณภาพสูง ทั้งทองคำบริสุทธิ์ 999.9 เพชรธรรมชาติ และเฟ่ยชุ่ย (หยกเจไดต์)
ศูนย์ผลิตแห่งนี้ยังให้ความสำคัญกับระบบอัตโนมัติ โดย Automated Logistics Centre 2 ได้ยกระดับการทำงานสู่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ หุ่นยนต์สีเหลืองตัวเล็กลักษณะคล้าย “Minions” ทำหน้าที่คัดแยกและจัดส่งสินค้าไปยังสาขากว่าพันแห่งอย่างแม่นยำ ด้วยอัตราความผิดพลาดต่ำกว่า 0.1%
ควบคู่กับเทคโนโลยีคือความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือที่ดูแลงานละเอียด เช่น ตรวจสอบวัตถุดิบ คัดแยกเพชรตามสีและขนาด ขัดแต่ง เคลือบเงา รวมถึงการถักทองคำเป็นลวดลายต่างๆ
ภายในศูนย์ผลิตมีพนักงานกว่า 4,000 คน โดย Master Studio เป็นศูนย์รวมช่างฝีมือระดับสูงกว่า 400 คน หลายสิบคนเป็นช่างระดับมาสเตอร์ที่มีใบรับรองระดับชาติและประสบการณ์กว่า 30 ปี ถ่ายทอดเทคนิคดั้งเดิมควบคู่กับแนวคิดสมัยใหม่เพื่อสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ Chow Tai Fook Jewellery ยังร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในเมืองชุ่นเต๋อ เพื่อพัฒนาช่างรุ่นใหม่ ถ่ายทอดความรู้เกือบศตวรรษสู่อนาคต โดยช่างฝีมือจำนวนมากใน Master Studio ล้วนเป็นศิษย์เก่าจากสถาบันดังกล่าว ทำให้เอกลักษณ์ของแบรนด์ยังคงสืบต่อกันอย่างมั่นคง
กลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มองค์กร: ไทยคือหนึ่งในตลาดสำคัญ
ในปี 2024 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 95 ปีของแบรนด์ Chow Tai Fook Jewellery ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งเร่งกระบวนการดิจิทัลเต็มรูปแบบ
แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี มุ่งสู่การครบรอบ 100 ปีในปี 2029 ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นแบรนด์เครื่องประดับระดับโลกที่ลูกค้าไว้วางใจและสามารถเป็นคู่ชีวิตตลอดทุกเจเนอเรชัน”
สื่อมวลชนไทยได้เห็นตัวอย่างวิสัยทัศน์นี้ผ่าน New Image Store ณ ห้าง MixC Mall ใจกลางเมืองเซินเจิ้น ซึ่งโดดเด่นด้วยสีแดงประจำแบรนด์ "Chow Tai Fook Timeless Red"
New Image Store มอบประสบการณ์การชอปปิงเสมือนเยี่ยมชมแกลเลอรีศิลปะ มีพื้นที่จัดแสดงเครื่องประดับไฮไลต์และคอลเล็กชันสำคัญ เช่น
- CTF Joie Collection แรงบันดาลใจจากดีไซน์แม่กุญแจทั้งโบราณและร่วมสมัย
- CTF Rouge Collection ผสานโทนสีแดงมงคลและอักษร “福” (ฝู) สัญลักษณ์แห่งความโชคดี
- CTF Palace Museum Collection พัฒนาร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังปักกิ่ง นำแรงบันดาลใจจากสมบัติของชาติสู่ลวดลายมงคล เช่น กลอง ผีเสื้อ และสิงโตหิน
นอกเหนือจากคอลเล็กชันหลักที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ Chow Tai Fook Jewellery ยังร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลกเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น วิดีโอเกม Black Myth: Wukong ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชาย และความร่วมมือกับ Walt Disney ที่นำคาแรกเตอร์ Mickey Mouse และตัวการ์ตูนน่ารักต่างๆ มาสร้างเป็นเครื่องประดับเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้ารุกไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์
Gabriela Ferreira (Gaby) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายต่างประเทศของ Chow Tai Fook Jewellery Group เปิดเผยว่า การขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนทรานส์ฟอร์มองค์กร 5 ปี โดยเน้นพัฒนาตลาดหลักเดิมและขยายสู่ตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตอย่างยั่งยืน
Chow Tai Fook Jewellery วางแผนยกระดับร้านเดิม เปิดสาขาใหม่ในทำเลศักยภาพ และเพิ่มจำนวน New Image Store ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสาขาแรกเปิดแล้วที่สนามบิน Changi ประเทศสิงคโปร์เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา.
สำหรับประเทศไทย เตรียมเปิด New Image Store แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีคอลเล็กชันพิเศษที่สะท้อนเอกลักษณ์แบบไทยโดยเฉพาะ นับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ที่แข็งแรง และมีร้านทั้งหมด 5 แห่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2025
ในปีงบประมาณ 2025 (เมษายน 2024-มีนาคม 2025) ยอดขายปลีกในตลาดต่างประเทศ (ยกเว้นดิวตี้ฟรีในจีน) เติบโต 9.4% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นตลาดขับเคลื่อนหลัก Gaby เน้นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ด้วยปัจจัยสำคัญ ได้แก่
- ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเครื่องประดับทองสไตล์จีน
- กำลังซื้อที่แข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวจีน
- ความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นที่เติบโตต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ Chow Tai Fook Jewellery จะยังคงพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ดีไซน์และรสนิยมของลูกค้าในแต่ละประเทศ เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน







