ทฤษฎีแห่งความสุข : สุข … สินค้าทางการเกษตรมูลค่าสูง โดย 'ธันย่า' ธันยลักษณ์ พรหมมณี

ประเทศไทยคือดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของผู้คนมายาวนาน สินค้าเกษตรไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ข้าวหอมมะลิไทย กาแฟดอยตุง มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว-ราชบุรี ส้มโอทับทิมสยามและส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม พริกไทยจันทบุรี กะปิคลองโคน น้ำตาลโตนดเพชรบุรี ทุเรียนป่าละอู ลองกองตราด กระเทียมศรีสะเกษ กล้วยตากพิษณุโลก ไข่เค็มไชยา สับปะรดภูแล และข้าวสังข์หยดพัทลุง ต่างสะท้อนความพิถีพิถันและอัตลักษณ์ท้องถิ่นอันโดดเด่น ได้รับการขึ้นทะเบียนบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และก้าวสู่ตลาดโลกด้วยคุณค่าที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจฐานรากของไทย

อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยยังปรากฏชัดในงานหัตถกรรมเส้นใยอย่าง "ผ้าไหมไทย" ซึ่งหลายพื้นที่ได้สืบสานองค์ความรู้ด้านการทอผ้ามาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการขึ้นทะเบียน GI ได้แก่ ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ที่มีความประณีตในเชิงลวดลาย ผ้าไหมมัดหมี่ชนบท จังหวัดขอนแก่นที่สะท้อนภูมิปัญญาการย้อมและทอแบบอีสาน ผ้าไหมยกดอกลำพูนที่โดดเด่นด้านเทคนิคการยกดอก ผ้าไหมบุรีรัมย์ที่มีเอกลักษณ์ด้านเฉดสี และผ้าไหมสุรินทร์ที่มีลายโฮลซึ่งเป็นแบบแผนเฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์กูย ทั้งหมดนี้สะท้อนความหลากหลายของศิลปหัตถกรรมไทยในฐานะทุนทางวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบทอดอย่างมั่นคงและยังคงคุณค่าในสังคมร่วมสมัย

มาตรฐานยุโรป หรือ European Standards เป็นหนึ่งในโอกาสสำคัญที่ผลักดันสินค้าไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสังคม การยกระดับสินค้าทางการเกษตรของไทยให้ผ่านมาตรฐานสำคัญ อย่าง EU Standards, GAP, GMP, Halal และ GI จึงเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีความเชื่อมั่นจากมาตรฐานที่ตรวจสอบได้ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังต้องสอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกอื่นๆ เช่น Codex Alimentarius, Global GAP, ISO 9001/14001/22000, Organic Standards ของสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น รวมถึงมาตรฐาน Fairtrade, US FDA และ China GACC มาตรฐานเหล่านี้ เมื่อผนวกกับเสน่ห์ของอัตลักษณ์ท้องถิ่น จะทำให้สินค้าเกษตรไทยโดดเด่นในระดับโลก 

สินค้าเกษตรไทยแต่ละชนิดล้วนมีเรื่องราวแทรกอยู่ในทุกกระบวนการผลิต ข้าวหอมมะลิที่ผูกพันกับวิถีชุมชน ผลไม้ที่เติบโตจากดินภูเขาไฟ สมุนไพรที่สืบทอดจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน หรือผ้าไหมที่ถักทอด้วยมือ ล้วนเป็น "ตำนาน" ที่ต่อยอดเป็นคุณค่าทั้งด้านวัฒนธรรม คุณภาพ และความเป็นเอกลักษณ์ สร้างความภาคภูมิใจที่ส่งต่อไปถึงผู้บริโภคทั่วโลก

การยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรจึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่พาภาคเกษตรไทยก้าวสู่ความทันสมัย ผ่านเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบตรวจสอบย้อนกลับ ฟาร์มดิจิทัล โดรนเพื่อการเกษตร และเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพดิน-น้ำ นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพผลผลิตโดยไม่จำเป็นต้องขยายพื้นที่เพาะปลูก เป็นการปรับโครงสร้างภาคเกษตรไทยให้ยั่งยืนและสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศในระยะยาว

หัวใจของการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตรไทย คือ "ทุนมนุษย์เกษตรกร" ผู้มีทักษะ ความรู้ และความชำนาญเฉพาะด้านที่สั่งสมจากประสบการณ์จริงในพื้นที่ เกษตรกรเหล่านี้คือผู้ขับเคลื่อนสำคัญที่สามารถพัฒนาการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย และตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงอาหารและเศรษฐกิจเกษตรได้อย่างแท้จริง

การสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรไทยในวันนี้เป็นมากกว่าการขายสินค้า หากเป็นการสื่อสาร "ตำนาน" ควบคู่กับการยืนยันคุณภาพตามมาตรฐาน ทั้ง GI, GAP, Organic, GMP และ HACCP เพื่อเสริมความเชื่อมั่นให้สินค้าไทยมีตัวตนชัดเจนในตลาด เมื่อเรื่องราวมีพลัง คุณภาพโดดเด่น และมาตรฐานครบถ้วน สินค้าเกษตรไทยก็พร้อมก้าวสู่การยอมรับในระดับสากลอย่างสง่างาม

ท้ายที่สุด สินค้าเกษตรไทยได้ก้าวขึ้นสู่เวทีโลกพร้อมโอกาสใหม่ด้านการลงทุน การจับคู่ธุรกิจ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภาพลักษณ์ของไทยในฐานะ ผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ทันสมัย และหยั่งรากด้วยวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง จะเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม

Made in Thailand จึงเป็นมากกว่าคำบ่งชี้แหล่งผลิต หากแต่สะท้อนสัญลักษณ์ของ “รากเหง้าที่งอกงาม” ซึ่งส่งมอบความภาคภูมิใจสู่สายตาชาวโลก การสืบสานภูมิปัญญาควบคู่กับนวัตกรรม การพัฒนาคุณภาพ และการยกระดับมาตรฐาน คือเส้นทางที่ทำให้สินค้าไทยเติบโตอย่างละมุนแต่ทรงพลัง ภายใต้สังคมธรรมาภิบาลและความร่วมมือของทุกภาคส่วน

เศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้านเกษตร (Agri-Creative Economy) คือเส้นทางที่ทำให้สินค้าเกษตรไทยยืนหยัดอย่างงดงามบนเวทีโลก ด้วยคุณค่าที่ผลิบานจากผืนดิน ธรรมชาติ วิถีชีวิต และแก่นแท้ของความเป็น "ไทย" ที่สืบทอดอย่างแท้จริง

แล้วพบกับ "ธันย่า" และ "ทฤษฎีแห่งความสุข" ได้ใหม่ ทุกวันจันทร์ที่สองของเดือน ในกรุงเทพธุรกิจฉบับตีพิมพ์ และ ออนไลน์