ชไนเดอร์ โชว์ 3 ไฮไลต์นวัตกรรมพลังงาน ในงาน "IEEE PES GTD Asia 2025"

‘ชไนเดอร์ อิเล็คทริค’ ร่วมงาน ‘IEEE PES GTD Asia 2025' จัดแสดง 3 โซน ไฮไลต์นวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ พลิกโฉมการใช้พลังงานสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ระหว่างวันที่ 26-29 พ.ย.68 ณ ศูนย์ประชุมสิริกิติ์
ซไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานระดับโลก ร่วมงาน ‘IEEE PES GTD Asia 2025' การประชุมและนิทรรศการด้านพลังงานไฟฟ้าและความยั่งยืนระดับนานาชาติ ภายใต้แนวคิด “From Vision to Impact” ระหว่างวันที่ 26-29 พ.ย.68 ณ ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
ซึ่งได้มีการจัดแสดง 3 โซน นวัตกรรมและโซลูชั่นการบริหารจัดการพลังงานสำหรับอาคาร โรงงานดาต้าเซ็นเตอร์ โครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายไฟฟ้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutraliy) เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ญาดา รุ่งเรืองวิเศษรัตน์ รองประธานฝ่ายธุรกิจ Power System ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า นวัตกรรมและโซลูชั่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทรานส์ฟอร์มพลังงานอย่างชาญฉลาด ตั้งแต่การวางรากฐานสำหรับโครงข่ายไฟฟ้าที่ยืดหยุ่น การเพิ่มศักยภาพชุมชนและอุตสาหกรรม ไปจนถึงการจัดสรรการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่แม่นยำ
สำหรับทุกผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงในงาน "IEEE PES GTD Asia 2025" ได้สะท้อนถึงความเชื่อและวิสัยทัศน์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืนด้วยการนำระบบไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ และระบบ ดิจิทัลมาปรับใช้ในอุตสาหกรรม ธุรกิจ และที่อยู่อาศัย
โดยภายในงานมีการจัดแสดงผ่าน 3 โซนไฮไลต์หลัก ได้แก่
โซน Carbon-Neutral Grid
นำเสนอนวัตกรรมการสร้างโครงข่ายไฟฟ้าที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการนำเสนอสวิตซ์เกียร์พร้อมใช้สำหรับอนาคต ประเภทแรงดันไฟฟ้าปานกลางที่ปราศจากก๊าซเรือนกระจก SF6 ได้แก่ SM AirSeT และ RM AirSeT
รวมทั้งยังมีการเปิดตัวสวิตซ์เกียร์รุ่นใหม่ล่าสุด MCSeT with EvoPacT ที่มาพร้อมดิจิทัลเบรคเกอร์เพื่อการเชื่อมต่อและการตรวจสอบที่ชาญฉลาด ทำให้การดำเนินงานโครงข่ายไฟฟ้ามีความปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้น
โดยสวิตซ์เกียร์รุ่นดังกล่าวได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผสานรวมกับระบบดิจิทัล ด้วยเซนเซอร์ที่ตรวจจับบนอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถส่งข้อมูลเรียลไทม์ไปยังระบบส่วนกลาง เพื่อใช้ในการมอนิเตอร์ ตรวจสอบและการซ่อมบำรุง ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนกิจการสาธารณูปโภคและภาคอุตสาหกรรมในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
"ภายในวันที่ 1 ม.ค.2569 ในยุโรปจะเริ่มมีการประกาศบังคับให้สวิตช์เกียร์ที่ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เรียกว่า SF6 ซึ่งการใช้งานสวิตช์เกียร์รุ่นเก่ามีการปล่อยออกมาถึง 2-3 กิโลกรัม ซึ่งคิดเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 7.5 หมื่นตันคาร์บอน ดังนั้นนวัตกรรมโซลูชั่นของชไนเดอร์จึงออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของลูกค้า"
โซน Sustainable Communities & Industriest
ภายในโซนนี้มีการจัดแสดงให้เห็นถึงการจัดการพลังงาน (Energy Management System) อย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยมีไฮไลต์คือ การขับเคลื่อนอาคารให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วย EcoStruxure ™ Building Activate แพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ที่ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งอาคารอัจฉริยะ
"ชไนเดอร์ออกแบบให้ทุกอุปกรณ์ทุกชนิดสามารถสื่อสารได้ในรูปแบบของ IoT (Internet of Things) ทำให้สามารถกำหนดค่าจากระยะไกล การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และการผสานรวมระบบพลังงานเข้ากับระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเป็นตัวช่วยเร่งให้เกิดความยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานครอบคลุมทุกส่วนของอาคารพาณิชย์"
การใช้ EcoStruxure ™ Building Activate ช่วยประเมินความเสี่ยงจากการใช้งานพลังงานในพื้นที่ รวมทั้งลดระยะเวลาที่เกิดไฟดับ (Down Time) ได้ถึง 40% ทำให้ส่งคนเข้าไปซ่อมบำรุงได้อย่างตรงจุด รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงประจำปีอีกด้วย
โซน Intelligent Energy Operations
ร่วมสัมผัสและเรียนรู้การทำงานของ EcoStruxure™ ADMS (Advanced Distribution Management System) ที่ขับเคลื่อนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยระบบนี้ช่วยเสริมศักยภาพให้กับหน่วยงานสาธารณูปโภคด้านพลังงาน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการมองเห็นโครงข่ายไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์และระบบอัตโนมัติขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานอนาคตที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยชไนเดอร์ร่วมกับ AVEVA และ ETAP ในการยกระดับการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการพลังงาน โดยการนำข้อมูลที่ได้จากการมอนิเตอร์มาสู่การวิเคราะห์และเรียนรู้การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งช่วยให้ลดการใช้พลังงานทั้งยังเพิ่มผลตอบแทนกลับมาอีกด้วย







