สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

"สนามฟุตบอล 7 สี" เป็นพื้นที่ที่สามารถ "เชื่อมโอกาส" ให้เด็กทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกระบบการศึกษา ได้มีพื้นที่เรียนรู้ เติบโต และค้นพบศักยภาพของตนเอง ได้มีโอกาสสัมผัสการแข่งขันระดับประเทศ

ที่ผ่านมารายการ "ฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7HD" เป็นพื้นที่สำหรับเด็กและเยาวชนไทยในระบบการศึกษา แต่ในปี 2568 นับเป็นครั้งแรกที่เด็กและเยาวชนนอกระบบหรือหลุดออกจากระบบการศึกษา และเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาได้ก้าวขึ้นสนามเดียวกัน จึงเรียกได้ว่าสนามฟุตบอล 7 สีเป็นพื้นที่ที่สามารถ "เชื่อมโอกาส" ให้เด็กทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีโอกาสสัมผัสการแข่งขันระดับประเทศ

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ร่วมสร้าง "สนามแห่งโอกาส” เพื่อให้เด็กทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกระบบการศึกษา ยังมีพื้นที่เรียนรู้ เติบโต และค้นพบศักยภาพของตนเอง

หนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ กีฬา ดนตรี และศิลปะ โดยเฉพาะ "ฟุตบอล" ที่ไม่ใช่เพียงการแข่งขันแต่เป็นพื้นที่เรียนรู้ทักษะชีวิต วินัย ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม และการเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งทีมฟุตบอลเยาวชน กสศ. มาจากพื้นที่ เทศบาลตำบลลำปางหลวง จังหวัดลำปาง นำโดย หมอตุ้ย สันติพงษ์ ศิลปสมบูรณ์ แกนนำเครือข่าย กสศ. ผู้เปลี่ยนสนามฟุตบอลให้กลายเป็น "ห้องเรียนชีวิต" ที่เด็กทุกคน ไม่ว่าจะยังเรียนเสี่ยงหลุด หรือหลุดไปแล้ว ได้กลับมาเรียนรู้ เติบโต และเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

พวกเขาฝึกซ้อมกันทุกวันที่สนามเล็กๆ ของชุมชนท่ามกลางข้อจำกัดด้านอุปกรณ์และทรัพยากร แต่สิ่งที่มีอยู่เต็มสนามคือความตั้งใจ แรงบันดาลใจ และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

 

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า ระบบการศึกษาไทยต้องสร้างพื้นที่กลางที่ให้เด็กเดินบนเส้นทางที่เขารัก พร้อมเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันได้ มีระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นพอให้กีฬาและการเรียนมาบรรจบเป็นเส้นทางเดียว ตอบโจทย์ความหลากหลายของเด็กไทย

กรณี อบต. ลำปางหลวง คือ ภาพสะท้อนจริงที่ กสศ. ค้นพบเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา บางคนไม่ยอมกลับเข้าโรงเรียน แต่ยอมกลับมาซ้อมฟุตบอลทุกวันและเมื่อมีเงื่อนไขว่า "ต้องแก้ ร. ให้ครบก่อนลงสนามศุภชลาศัย" เด็กทุกคนกลับทุ่มเทอย่างที่สุด

"เด็กที่ติด ร. สิบกว่าตัว ไม่เคยแก้…แต่พอบอกว่าต้องแก้ให้หมดก่อนถึงจะได้ลงเตะในสนามศุภชลาศัย เขาฮึดเต็มที่ พยายามสุดความสามารถ เพราะนั่นคือความฝันของเขา"

เรื่องนี้สะท้อนประเด็นสำคัญว่า หากระบบการศึกษาเชื่อมโยงกับความฝัน เด็กจะมีแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังอย่างมหาศาล

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

สนามฟุตบอล พื้นที่แห่งโอกาส

ฟุตบอลสอนการต่อสู้เมื่อแต้มตามหลัง การล้มแล้วลุก ความมีวินัย ความกล้าหาญ และการไม่ทิ้งทีมในสนามจะเห็น "การศึกษาในชีวิตจริง" ชัดเจน "เวลาเด็กอยู่บนสนาม เราเห็นพลังการต่อสู้ของพวกเขา ล้มกี่ครั้งก็ลุก คะแนนตามก็ยังสู้ เพราะเขากำลังทำในสิ่งที่รัก"

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

"ฟุตบอล สอนเราว่าถ้าอยากชนะก็ต้องลุกขึ้นให้ได้ทุกครั้งที่แพ้" หนึ่งในบทเรียนที่ "อิ๊กคิว" วรภพ กาเตจ๊ะ และเพื่อนๆ ได้เรียนรู้จากประสบการณ์แข่งฟุตบอลครั้งนี้มากกว่าการแข่งขัน คือการขยายขอบเขตของโอกาส

เด็กหลายทีมทั่วประเทศที่ร่วมแข่งขันในปีนี้ต่างมีเรื่องราวแบบเดียวกัน เพราะพวกเขาได้อยู่ในพื้นที่ที่เปิดให้ใช้ความฝันเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิต พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ มาตรา 4 การศึกษาคือ "กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม" การแข่งขันที่ สนามศุภชลาศัย จึงไม่ใช่แค่เกมฟุตบอลแต่คือ "กระบวนการเรียนรู้เชิงลึก" ของทั้งเด็กและสังคมไทย

ผู้ชมหลายหมื่นในสนาม และผู้ชมออนไลน์จำนวนมหาศาล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้สาธารณะ ว่าความพยายามของเด็กมีคุณค่ามากเพียงใด ความสนใจจากคนทั้งประเทศทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ยอดผู้ชม ยอดแชร์ ยอดสนับสนุน คอมเมนต์นับแสน และภาคส่วนต่างๆ ที่สนับสนุน หากจัดระบบอย่างเหมาะสม สามารถขับเคลื่อนทั้งระบบกีฬาและการศึกษาของประเทศได้

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐ ลงทุนในระบบเยาวชนอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่า "พรสวรรค์เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เกิดขึ้นได้ทุกจุด ในทุกชุมชน" ประเทศไทยก็ทำได้เช่นกัน มีทีมเยาวชนในโรงเรียนและพื้นที่ทุกแห่ง หากมีโค้ช มีระบบคัดเลือกต่อยอด จะมี Pipeline นักกีฬาคุณภาพสู่ทีมจังหวัด ทีมชาติ และอาชีพได้อย่างเป็นระบบ

ดร.ไกรยส กล่าวเพิ่มว่า ที่ผ่านมา กสศ. ร่วมกับ เทศบาลตำบลลำปางหลวง ร่วมกันทำงานแบบรอบด้าน ได้แก่ คัดกรองและติดตามเด็กหลุดจากระบบ ผ่านระบบข้อมูล และการทำงานเชิงรุกกับชุมชน โรงเรียน ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน ศูนย์การเรียน CYF เพื่อพาเด็กๆ กลับเข้าสู่การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิต เช่น Mobile School ศูนย์การเรียน การเรียนรู้แบบยืดหยุ่นสนับสนุนกิจกรรมกีฬาเพื่อสร้างแรงจูงใจและทักษะพื้นฐานทางสังคมเสริมทรัพยากรพื้นฐาน เช่น อุปกรณ์การฝึกซ้อม การฝึกฝน การเก็บตัว เบี้ยเลี้ยงสำหรับโค้ชอาสา รวมทั้ง ประสานภาคีในพื้นที่ รัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ร่วมสนับสนุน ติดตามเป็นรายบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนไม่หลุดซ้ำ และมีเส้นทางการเรียนรู้ต่อเนื่อง การสนับสนุนเชิงระบบและเชิงพื้นที่เช่นนี้ ทำให้ทีมลำปางหลวงไม่ใช่เพียงทีมฟุตบอล แต่เป็นตัวอย่างของการใช้กีฬาเป็นสะพานเชื่อมเด็กกลับเข้าสู่โอกาสการศึกษา

กสศ. ขับเคลื่อนงานเพื่อให้โอกาสเป็นของเด็กทุกคน ทำให้ความหวังนี้กลายเป็นระบบที่ยั่งยืนของประเทศ  เพื่อสร้างระบบที่เอื้อให้เด็กทุกคนได้เติบโตตามเส้นทางความฝันของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศก็จะเติบโตไปพร้อมกับเขาเช่นกัน

สนามฟุตบอล = ห้องเรียนชีวิต และพื้นที่แห่งโอกาสการเรียนรู้

ร่วมเป็น "สะพานแห่งโอกาส" ด้วยการสนับสนุน 800 บาท เพื่อมอบโอกาสให้เด็กๆ กลับสู่เส้นทางการศึกษาเรียนรู้ รับเสื้อทีม กสศ. (สำหรับ 1,000 คนแรก) ทุกการบริจาคได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2 เท่า เพราะ "ทุกโอกาส" คือ "การเรียนรู้" และ "ทุกการสนับสนุน" คือ "อนาคตของเด็กไทย"