Dongtan Forum ครั้งที่ 5 AI SOCIETY สังคมล้มลุก พลังความคิดและนวัตกรรมของวิศวกรไทย

Dongtan Forum ครั้งที่ 5 AI SOCIETY: สังคมล้มลุก กับความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สะท้อนพลังแห่งความคิดและนวัตกรรมของวิศวกรไทย
เวทีสัมมนา Dongtan Engineer Forum 5 "AI SOCIETY สังคมล้มลุก" จัดโดย สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเวทีที่รวมพลังของ "วิศวกร-นักคิด-นักสร้างสรรค์" เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและจุดประกายแนวทางใหม่ต่ออนาคตของสังคมไทยในยุค AI
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ นายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานกรรมการจัดงาน กล่าวว่า ความสำเร็จของปีนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ Dongtan Forum ครั้งที่ 5 เติบโตเกินความคาดหมาย ทั้งในแง่จำนวนผู้เข้าร่วมงานและจำนวนบูทนิทรรศการที่มากที่สุดตั้งแต่เคยจัดมาเรารู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นพลังของวิศวกรรุ่นพี่รุ่นน้องจากหลากหลายสาขามาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด สร้างแรงบันดาลใจ และถ่ายทอดนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจริง จากห้องเรียนประสบการณ์ให้กับประเทศชาติและสังคมโลกบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยความรู้ แรงบันดาลใจ และการตั้งคำถามต่ออนาคตของเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลก "AI SOCIETY สังคมล้มลุก" ไม่ได้เป็นเพียงเวทีวิชาการ แต่เป็นเวที "เปิดใจ-เปิดความคิด-เปิดคำถาม" ให้สังคมไทยได้ร่วมกันหาคำตอบว่า "สังคมจะล้มลงเพราะ AI หรือจะลุกขึ้นใหม่ด้วยพลังของมัน?" "จากเวทีแห่งวิศวกร สู่พลังของสังคมที่ไม่หยุดเรียนรู้จากความรู้ สู่การลงมือเปลี่ยนโลกจริง" "สังคมล้มลุก" จึงไม่ใช่แค่ภาพของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี แต่คือกระจกสะท้อนสภาพจิตของมนุษย์ยุคใหม่ ที่ต้องเรียนรู้จะล้มอย่างมีสติ และลุกขึ้นด้วยปัญญา
นายปรีชา บริณายกานนท์ ประธานดำเนินการจัดงาน Dongtan Forum ครั้งที่ 5 กล่าวขอบพระคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกหน่วยงานซึ่งเห็นความสำคัญของการจัดงาน รวมทั้งวิทยากรคนรุ่นใหม่ที่เป็นส่วนสำคัญของงานนี้พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ (สอป.) และ ศ.ดร.วันชัย ยอดสุดใจ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ให้เกียรติมาเป็นองค์ปาฐกทั้งสองท่านเป็นแบบอย่างการสร้างคุณูปการอย่างยิ่งต่อประเทศ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทุกคน อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือบูทแสดงผลงานนิทรรศการ KU EngiNOVATION เพื่อสังคมจากคณาจารย์ นักวิจัย และนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยวิศวกรรม" ซึ่งได้รับความสนใจอย่างคับคั่งจากผู้เข้าชมตลอดทั้งวันผลงานเด่นในปีนี้ อาทิ
- เครื่องจำลองการผ่าตัดทารกในครรภ์ (Fetal Surgery Simulator)
- AI-Based Thermal Imaging สำหรับตรวจระบบท่ออุตสาหกรรม
- AI-Vision ระบบวิเคราะห์ภาพอัจฉริยะเพื่อ Smart City
- แว่นตา AI ช่วยผู้พิการทางสายตา
- ตู้เพาะเห็ดมูลค่าสูงแบบ Modular Farm
- AI ตรวจจับโรคพืชแบบ Explainable AI
- AXIS Solution - AI Marketing ServiceTech สำหรับธุรกิจ SME
- Mobility Healthcare Robot หุ่นยนต์บริการทางการแพทย์
อย่างไรก็ตามงาน "AI Society สังคมล้มลุก" วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแต่เวทีแสดงเทคโนโลยี แต่คือจุดเริ่มต้นของการรวมพลังระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างสังคมที่
ก้าวหน้าอย่างมีคุณค่าและมีหัวใจ เราเชื่อว่า AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ หากแต่มาเป็นเครื่องมือที่ช่วยเปิดประตูแห่งโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกสาขา ทั้งในด้านการศึกษา ศิลปะ ธุรกิจ และชีวิตประจำวัน ในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่ "ความล้ำหน้า" ของเครื่องจักรแต่คือ วิธีที่เรานำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ งานนี้จึงมุ่งสร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และจุดประกายแนวคิดใหม่ เพื่อให้สังคมไทยพร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายฐนพล กิตติดุลยการ ผู้ดำเนินรายการ-กรรมการการจัดงาน กล่าวว่า วันนี้ AI ไม่ได้อยู่ในอนาคตอีกต่อไป แต่มันอยู่ในทุกการกระทำของเรา ทุกการคลิก ทุกการจ่ายเงิน ทุกการสื่อสาร มันกำลังเรียนรู้เราและเปลี่ยนวิธีที่เรามองโลกแต่คำถามสำคัญไม่ใช่ว่า AI จะทำอะไรได้อีก แต่คือเราจะอยู่ร่วมกับมันอย่างมีสติ และยังคงเป็นมนุษย์ในแบบของเราได้อย่างไร Dongtan Forum ครั้งที่ 5 "สังคม ล้ม-ลุก" นี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้คนเข้าใจ AI อย่างลึกซึ้งขึ้นแต่ยังสร้างแรงบันดาลใจ และความหวังให้เห็นว่า "มนุษย์และเทคโนโลยี" สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ เพราะ AI จะไม่ Take Control โลกของเรา หากเรามีสติปัญญาและหัวใจที่จะใช้มันสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมบนเวทีนี้มีการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างผู้นำเทคโนโลยี ธุรกิจ การศึกษา และภาคสังคมเพื่อชวนทุกคนตั้งคำถามใหม่ต่อโลกยุค AI ว่า "เราจะอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีอย่างมีสติ และยังคงเป็นมนุษย์ในแบบของเราได้อย่างไร" ทั้งหมดจึงนำมาสู่ "สังคม-ล้ม-ลุก"
ในวันนี้ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้นำความคิดคนรุ่นใหม่ที่ล้วนเป็น นิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งโดดเด่น ทันสมัย และเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศไทย อาทิ
- ศ.ดร.วันชัย ยอดสุดใจ (E49) คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ดร. ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ (E53) ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์
- ดร.ปิยะวัฒน์ จริยเศรษฐพงศ์ (E44) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)
- จรุง เกียรติสุภาพงศ์ (E48) Vice Chairman, CIO, KASIKORN Business-Technology Group [KBTG]
- ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ (E60) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CTO บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- ผศ.ดร. หัชทัย ชาญเลขา (E53) ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัล, ประธานดำเนินงานโครงการบัณฑิตศึกษา
- รศ.ดร. ศรีจิตรา เจริญลาภนพรัตน์ (E44) ผู้ช่วยอธิการบดี มก. ฝ่ายวิชาการและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- นิติ เมฆหมอก( E45) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท ซีนเนอร์ยี เทคโนโลยี จำกัด (SYNERGY GROUP)
- อัญญารัตน์ เกื้อสมบัติ( E59) Country Business and Technology Strategic Lead,Hewlett Packard Enterprise
- ศ.ดร.ศุภกิจ นนทนานันท์( E37) ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ดร.กาจวิศว์ กล้าหาญ (E46) กรรมการผู้จัดการ บริษัท H20 Consult Co., Ltd.
- ฐนพล กิตติดุลยการ (E67) Senior Manager, Visionary and Corporate Strategy, Kasikorn Bank
ซึ่งท่านที่พลาดการมารับชมรับฟังสามารถรับชมรับฟังได้ตามสื่อ online ได้ทุกช่องทาง
นายประสิทธิ์ กิจวิวัฒนการ ประธานที่ปรึกษาโครงการ DONGTAN FORUM สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัด Dongtan Forum ครั้งที่ 5 อย่างต่อเนื่อง จากความสำเร็จในทุกครั้งที่ผ่านมา เวทีที่สะท้อนบทบาทของ "วิศวกรผู้มองไกล" ต่อสังคมไทยยุคเปลี่ยนผ่าน ทุกครั้งที่จัดงาน สมาคมฯ มุ่งเน้นหัวข้อที่ "สังคมต้องฟัง" และ "ผู้นำต้องคิด" ตั้งแต่เรื่อง Climate Change, Covid-19, Technology Disruption, ไปจนถึง วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ซึ่งหลายแนวคิดจากเวทีนี้ ถูกนำไปต่อยอดเป็น นโยบายภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศ จุดเด่นของ Dongtan Forum คือการสื่อสารที่เข้าถึงได้ทุกชนชั้นไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นักศึกษา ผู้บริหาร หรือภาคอุตสาหกรรม ทุกคนสามารถเข้าใจ และร่วมตั้งคำถามต่ออนาคตของสังคมได้อย่างเท่าเทียมวิทยากรแต่ละท่านล้วนหลากหลายและทรงพลัง จากทั้งวงการสังคม วิศวกรรม และนวัตกรรม มาร่วมกันถอดรหัสปัญหา และหาทางออกอย่างสร้างสรรค์จนทำให้เวทีนี้ ไม่ใช่แค่การบรรยาย แต่คือการจุดประกายให้สังคมคิด ส่วนแนวคิดเบื้องหลังชื่อ "สังคมล้มลุก (AI Society)" เริ่มต้นจากความรู้สึกสองขั้วในใจมนุษย์-ความมหัศจรรย์ และความหวาดกลัว เราตื่นตะลึงกับพลังของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด
"แต่ขณะเดียวกันก็เริ่มตระหนักถึงเงาของมันที่ทอดยาวเข้ามาในชีวิตเรา AI ไม่ได้ล้มลุก… มนุษย์ต่างหากที่เริ่มล้มในจิต เพราะเราหลงใหลในความรอบรู้ของสิ่งที่เราเองสร้างขึ้น จนเผลอวางหัวใจไว้ในมือของเครื่องจักรในเชิงลึกผมว่ามนุษย์อาจล้มในจิตก่อน เพราะ AI ไม่มีจิต มันไม่หลง ไม่กลัว ไม่โกรธ แต่มนุษย์ต่างหากที่ให้ค่ากับสิ่งที่มันผลิต ดังนั้นเมื่อมนุษย์ยึดถือผลผลิตของ AI มากกว่าคุณค่าของใจมนุษย์จะค่อยๆ เสียความเป็นผู้ตื่นรู้ ไปโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้ามนุษย์ใช้ AI ด้วยโยนิโสมนสิการพิจารณาโดยแยบคาย AI จะกลายเป็นเครื่องขยายศีล สมาธิ ปัญญาได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ เราไม่ต้องกลัว AI หรอกครับแต่ตระหนักถึงมันและนั่นคือจุดต่างระหว่างคนทั่วไปกับผู้มีปัญญา เพราะผู้ที่รู้ว่าควรกลัวอะไร ละอะไร คือคนที่เริ่มตื่นแล้วสำหรับความเป็นมนุษย์ ผมมอง AI ในมุมของวิศวกรที่อยากเป็นคนตื่นรู้ ให้ความรู้สึกต่อ AI ในสังคมล้มลุกอย่างระแวง ระวัง ละวางก็เท่านั้นครับ" ประสิทธิ์ กล่าวปิด







