120 ปี 'ยารา' ดึงจุดแข็งเข้าใจเกษตรกร พัฒนาผลิตภัณฑ์ยกระดับภาคการเกษตรยั่งยืน

"ยารา" ชูสโลแกน "120 ปี ยารา มองอดีตเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน" พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ส่งต่อความรู้ผ่านแอปฯ ยาราฟาร์มแคร์ (Yara FarmCare®) ดันเกษตรพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างอนาคตทางอาหารที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ
ยารา บริษัทปุ๋ยที่บุกเบิกการสกัดธาตุไนโตรเจนจากอากาศมาผลิตเป็นปุ๋ยธาตุอาหารแบบคอมปาวด์คุณภาพสูง หรือ ปุ๋ยเอ็นพีเพีเค (NPK - ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเชียม) ปี พ.ศ. 2448 ที่ประเทศนอร์เวย์ แซม ไอเด (Sam Eyde) และ คริสเตียน เบิร์คแลนด์ (Kristian Birkeland) ได้ก่อตั้งบริษัทนอร์สก์ ไฮโดร (Norsk Hydro ) ซึ่งกลายเป็นบริษัทยาราในปัจจุบัน
หลังจากที่พวกเขาได้คิดค้นวิธีการสกัด ธาตุไนโตรเจนจากอากาศเพื่อใช้ผลิตปุ๋ยธาตุอาหาร และนับเป็นก้าวสำคัญในวงการเกษตรที่ช่วยให้ทวีปยุโรปหลุดพ้นสภาพความหิวโหยจากปัญหาการผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอ
หนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ได้ลองใช้ปุ๋ยยาราก็คือประเทศไทย เมื่อโรงงานของยาราที่เมืองโนทอดเดนได้มีโอกาสถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวเมื่อ พ.ศ. 2450 และพระองค์ได้ทรงปุ๋ยสูตรยาราลีว่า (YaraLiva) จำนวน 1 ตัน กลับมาทดลองใช้ที่ไทย
ตลอดช่วงเวลาที่ปุ๋ยยาราได้เข้ามาในประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับเกษตรกรเป็นหัวใจสำคัญ (Farmer Centric) ยาราไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิต และขายปุ๋ยเท่านั้นแต่ จุดแข็งของยาราคือการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของเกษตรกรและปัจจัยแวดล้อม และนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานับร้อยปีมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกษตรสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ยารามีทีมนักวิชาการที่ลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลอดทั้งปี อาทิ งานประชุมเกษตรกร คลินิกพืช แปลงสาธิต และการเยี่ยมเยียนเกษตรกร
ตลอดช่วงเวลาที่ปุ๋ย ยารา ได้เข้ามาในประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับเกษตรกรเป็นหัวใจสำคัญ (Farmer Centric) ยาราไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิต และขายปุ๋ยเท่านั้นแต่ จุดแข็งของยาราคือการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของเกษตรกรและปัจจัยแวดล้อม และนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานับร้อยปีมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกษตรสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ยารามีทีมนักวิชาการที่ลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลอดทั้งปี อาทิ งานประชุมเกษตรกร คลินิกพืช แปลงสาธิต และการเยี่ยมเยียนเกษตรกร
นอกจากนี้ บริษัท ยารา ยังมีทีมพัฒนาเครื่องมือดิจิทัล (digital solutions) ให้กับเกษตรกร โดยในแต่ละประเทศจะมีการทำความเข้าใจกับปัญหาของเกษตรเพื่อสร้างเครื่องมือที่ตอบโจทย์สำหรับประเทศนั้นๆ สำหรับประเทศไทย ยาราเป็นบริษัทปุ๋ยรายแรกที่นำเอาเครื่องมือดิจิทัลมาใช้โดยมี แอปพลิเคชันยาราฟาร์มแคร์ (Yara FarmCare®) ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงความรู้และข้อแนะนำ ในด้านการเกษตรได้อย่างสะดวกรวมถึงมีตัวช่วยให้กับเกษตรกร ทั้งการวัดขนาดพื้นที่ ดูพยากรณ์อากาศ คำนวณปริมาณการใช้ปุ๋ย หรือเทียบสีใบดิจิทัล เพื่อประเมินความต้องการธาตุไนโตรเจนในพืช และ ล่าสุดได้เพิ่มเครื่องมือตรวจสอบอาการขาดธาตุอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากความรู้ที่สั่งสมมาเป็นเวลานานโดยนักวิชาการเกษตรของยารา ตั้งแต่ที่ยาราเปิดตัวแอปฯ ในประเทศไทยเมื่อปี 2565 จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้แล้วกว่า 390,000 คน และยารามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยาราฟาร์มแคร์ก้าวสู่แอปพลิเคชันเกษตรอันดับหนึ่งสำหรับเกษตรไทย
ยารา มีจุดมุ่งหมายใน "การสร้างอนาคตทางอาหารที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ" (Growing a Nature-Positive Food Future) ซึ่งหมายถึงการสร้างระบบผลิตอาหารโดยให้ความสำคัญในประเด็นการลดก๊าซเรือนกระจก ระบบเกษตรกรรมฟื้นฟู ความอยู่ดีกินดีของเกษตรกร และการลดก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas mitigation) บริษัทยาราเป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอนฟุตปรินท์ (carbon footprint) ในอุตสาหกรรมปุ๋ย โดยเป็นเวลากว่า 20 ปีมาแล้วที่ยาราได้สร้างนวัตกรรมที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตลงถึงร้อยละ 50 และล่าสุด ยารา ได้เริ่มใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิตปุ๋ยบางส่วนที่นอร์เวย์ด้วย
ท่ามกลางสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ยาราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ภาคการเกษตรสามารถปรับตัวต่อความท้าทายของสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยระบบน้ำ (fertigation) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยและน้ำ หรือ สารชีวภาพ (biologicals) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของพืชในการดูดซึมธาตุอาหาร เพิ่มความทนทานของพืชต่อภัยแล้ง และต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น
สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของยารา บริษัทได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้กระสอบบรรจุปุ๋ยรุ่นใหม่ หรือ "ถุงเรโน" (Renobag) ด้วยเป้าหมายที่จะลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ลงครึ่งหนึ่ง จากรุ่นมาตรฐานที่เป็นพลาสติกสองชั้นสู่รุ่นใหม่ที่มีพลาสติกเพียงชั้นเดียว
หลักในการทำงานของยาราตั้งอยู่บนสามเสาหลักนั่นก็คือ สังคม (people) สิ่งแวดล้อม (planet) และ เศรษฐกิจ (prosperity) บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้ปราศจากความหิวโหย ส่งเสริมการผลิตอาหารและทำการเกษตรอย่างยั่งยืน และสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกร ยาราได้ส่งมอบความรู้และผลิตภัณฑ์ธาตุอาหารพืชคุณภาพพรีเมียมมาอย่างยาวนานจนทำให้ได้รับความไว้วางใจจากเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มพืชเศรษฐกิจ เช่น ทุเรียน ยางพารา ปาล์ม ลำไย หรือผักใบ โดยกุญแจสำคัญที่ทำให้บริษัทมาถึงจุดนี้ได้ คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ที่ใช้สินค้าไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืช หรือการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นันทิยา พิทักษ์วงษ์ดีงาม กรรมการผู้จัดการ ยาราประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ บริษัทยารา ผู้นำระดับโลกด้านโภชนาการพืชที่บุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ ให้กับวงการเกษตร ชูสโลแกน "120 ปี ยารา มองอดีตเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน" เพื่อสะท้อนถึงการเดินทางที่ยาวนานกว่าศตวรรษในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และให้ความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหาร และการทำเกษตรเชิงฟื้นฟู
ขอเชิญชวนเกษตรมาร่วมสนุกกับกิจกรรมแจกของรางวัลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2568 ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย หรือสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ รุ่น limited edition 120 ปี (มีจำนวนจำกัด) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
- เว็บไซต์ ยาราประเทศไทย คลิกที่นี่
- Facebook : ยาราประเทศไทย - Yara Thailand
- Facebook : ฟาร์มแคร์ แอปความรู้คู่เกษตรกร (FarmCare)
- Line Official : @yarafarmcare
- Youtube : ยารา ประเทศไทย







