ทฤษฎีแห่งความสุข : สุข… หวานคำ ประจำจังหวัด โดย ธันย่า - ธันยลักษณ์ พรหมมณี

ฤดูกาลแห่งความสุขเติมชีวิตชีวา ด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีชุมชนท้องถิ่น ชวนสำรวจประวัติศาสตร์ไทยทั้ง 77 จังหวัด อย่างลึกซึ้ง เย้ายวน และเปี่ยมด้วยอัตลักษณ์

ประเทศไทยเป็นดินแดนที่อุดมด้วยรากฐานทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นประเพณี ความเชื่อ ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือศิลปะวิถีชีวิตที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนอัตลักษณ์ของชาติ และยังเป็น "ทุนวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า" ที่ก่อให้เกิดความรัก ความหวงแหน และความปรารถนาที่จะรักษาและส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง

ธันย่า และ ทฤษฎีแห่งความสุข ประจำเดือนกันยายน ขอเชิญชวนทุกคนร่วมซึมซับพลังทุนวัฒนธรรม พลังที่หล่อหลอมผู้คนให้เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว และเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างชาติไทยให้มั่นคงและยั่งยืน ดังที่สะท้อนผ่านเสน่ห์และอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละจังหวัด ผ่าน "คำขวัญประจำจังหวัด" ซึ่งเปรียบเสมือนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ถ่ายทอดภูมิปัญญา วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อันเป็นเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์สู่ธุรกิจการท่องเที่ยวและสังคมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

แนวคิดการนำทุนวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่า เริ่มต้นขึ้นในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี พ.ศ. 2530 ในช่วง "ปีแห่งการท่องเที่ยวไทย" ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเติบโต และสร้างความเจริญรุ่งเรืองที่งดงามควบคู่กับการพัฒนาสังคมไทย

จากความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ท้องถิ่น "คำขวัญประจำจังหวัด" จึงกลายเป็นแรงผลักดันที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับท้องถิ่นและประเทศชาติ อาทิ

ภาคเหนือ เชียงใหม่ ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์

ภาคกลาง กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัด วัง งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย สุพรรณบุรี เมืองยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้นชื่อ เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง ส่วน สระบุรี พระพุทธบาทลือนาม แหล่งน้ำอุดม นมเนื้อมากมาย หลากหลายโรงงาน ถิ่นข้าวสารพันธุ์ดี มีมะม่วงรสเลิศ งามบรรเจิดธรรมชาติ ขณะที่ เพชรบูรณ์ เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คำขวัญสะท้อน ผ้าไหมไทยและภูมิปัญญา เป็นเอกลักษณ์สำคัญ เช่น สุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม ร้อยเอ็ด สิบเอ็ดประตูเมืองงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกต บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ชัยมงคล งามน่ายลบึงพลาญชัย เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ กาฬสินธุ์ เมืองฟ้าแดดสงยาง โปงลางเลิศล้ำ วัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา ผาเสวยภูพาน มหาธารลำปาว ไดโนเสาร์สัตว์โลกล้านปี นครราชสีมา เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน สุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมดี มากมีปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม พร้อมวัฒนธรรม ชัยภูมิ กำเนิดแม่น้ำชี สดุดีพญาแลผู้กล้า ปรางค์กู่เป็นสง่า ล้ำค่าพระธาตุชัยภูมิ สมบูรณ์ป่าเขาสรรพสัตว์ เด่นชัดลายผ้าไหม ดอกกระเจียวงามลือไกล อารยธรรมไทยทวารวดี มหาสารคาม พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร

ภาคตะวันออก ตราด เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา

ภาคตะวันตก ตาก ธรรมชาติน่ายล ภูมิพลเขื่อนใหญ่ พระเจ้าตากเกรียงไกร เมืองไม้และป่างาม กาญจนบุรี เมืองขุนแผน แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่ น้ำตก มรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร  

ภาคใต้ ชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วย เล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก ตรัง ชาวตรังใจกว้าง สร้างแต่ความดี สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์ ยะลา ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามชายแดน

คำขวัญเหล่านี้สะท้อน "ทุนวัฒนธรรม" ของแต่ละจังหวัด เชื่อมโยงกับวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และทรัพยากรท้องถิ่น ก่อให้เกิดอัตลักษณ์ ความภูมิใจ และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาอารยธรรมไทยอย่างยั่งยืน

นอกจากคำขวัญประจำจังหวัดแล้ว แต่ละพื้นที่ยังมี ตราสัญลักษณ์ ธง และต้นไม้ประจำจังหวัด ซึ่งต่างสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายใต้กรอบ "ไทยที่มีอารยธรรม" สัญลักษณ์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความภาคภูมิใจแก่คนในท้องถิ่น และยังช่วย "เสริมสร้างภาพลักษณ์ไทยศรีวิไลย์" เผยแพร่ความโดดเด่นของจังหวัดไปสู่คนไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้รู้จักและสัมผัสวิถีไทยในดินแดนสยามเมืองยิ้ม

แล้วพบกับ "ธันย่า" และ "ทฤษฎีแห่งความสุข" ได้ใหม่ ทุกวันจันทร์ที่สองของเดือนในกรุงเทพธุรกิจฉบับตีพิมพ์และทางออนไลน์