AIS เคียงข้างคนไทย จากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ร่วมส่งถุงยังชีพ เสริมระบบสื่อสาร

AIS เดินหน้าภารกิจเคียงข้างคนไทยในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา รวมพลังอุ่นใจอาสาส่งถุงยังชีพ–เสริมระบบสื่อสาร พร้อมมาตรการดูแลลูกค้าเต็มรูปแบบ
ท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณ ชายแดนไทย–กัมพูชา เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะของประเทศไทยที่พร้อมเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ เร่งขับเคลื่อนภารกิจสนับสนุน ดูแลลูกค้าและคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการรวมพลังพนักงานอุ่นใจอาสา พร้อมศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง พร้อมส่งต่อความห่วงใยให้ผ่านพ้นสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสยึดมั่นในบทบาทของเครือข่ายที่พร้อมเคียงข้างคนไทยในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในยามวิกฤติที่สังคมต้องการพลังแห่งความร่วมมือซึ่งกันและกัน เราไม่ได้เพียงแค่ส่งสัญญาณสื่อสาร แต่ยังส่งต่อกำลังใจ ความห่วงใย และการสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ด้วยการระดมทีม อุ่นใจอาสา พร้อมนำศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะเข้าไปเสริมทัพเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สนับสนุนทั้งการปฏิบัติงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน สิ่งที่เอไอเอสทำในวันนี้ ไม่ใช่เพียงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ แต่คือคำมั่นที่เรายืนยันมาตลอดว่า เอไอเอสพร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าและคนไทยในทุกช่วงเวลา
เอไอเอส เดินหน้าดูแลลูกค้าและคนไทย ในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
1.) ระดมพนักงานเอไอเอส "อุ่นใจอาสา" ส่งต่อความห่วงใย โดยร่วมจัดเตรียมสิ่งของจำเป็น ทั้ง ถุงยังชีพ น้ำดื่ม และผ้าห่ม ส่งต่อความห่วงใยผ่านความร่วมมือกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งพลังเล็กๆ ที่สะท้อนเจตนารมณ์ขององค์กรในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมในยามเกิดวิกฤติ
2.) สนับสนุนระบบสื่อสารอย่างเต็มกำลังแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดน ขยายสัญญาณเครือข่ายอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งยังร่วมกับไทยคม สนับสนุนอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม พร้อมสแตนด์บายรถโมบายในพื้นที่ โดยมีทีมวิศวกรมอนิเตอร์และดูแลเครือข่าย 24 ชั่วโมง พร้อมสนับสนุนแพ็กเกจสื่อสารให้เจ้าหน้าด้านความมั่นคงเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่
3.) ขยายสัญญาณเครือข่ายในศูนย์อพยพ ร่วมกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ขยายสัญญาณเครือข่ายในศูนย์อพยพ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ม.เทคโนโลยีราชมงคล จังหวัดสุรินทร์, ม.ราชภัฏสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์, ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ, ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี และสนามช้างอินเตอร์เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมแผนรองรับการขยายเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นตามความจำเป็น
4.) ดูแลลูกค้าเอไอเอสที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ฝั่งกัมพูชาและไทย ดังนี้
- ขยายเวลาชำระค่าบริการลูกค้า เอไอเอส รายเดือน และ AIS FIBRE3 และขยายเวลาการใช้งานให้ลูกค้าระบบเติมเงิน
- โดยปิดบริการ AIS Shop และตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว โดยลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมและรับบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน myAIS
- ด้านลูกค้าเอไอเอสที่โรมมิ่งอยู่ใน กัมพูชา สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ, สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ฟรี รวมถึงติดต่อ AIS Call Center ฟรี 24 ชั่วโมง







