ชป. เกาะติดสถานการณ์ลุ่มน้ำยม – น่าน หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง

ชป. เกาะติดสถานการณ์ลุ่มน้ำยม – ลุ่มน้ำน่าน หลังฝนตกหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนที่อาจตกหนักในระยะนี้
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน (SWOC) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของ พายุวิภา ส่งผลให้เกิด ฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- สถานการณ์ลุ่มน้ำน่าน
ที่สถานีวัดน้ำ N.1 สำนักงานป่าไม้ฯ อำเภอเมืองน่าน และสถานีวัดน้ำ N.13A บ้านบุญนาค อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำทางตอนบนไหลมาสมทบ โดยปริมาณทั้งหมดจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในระยะต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ จำนวน 6,123 ล้านลูกบาศก์เมตร (64% ของความจุอ่างฯ) และยังสามารถรับน้ำได้อีก 3,387 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ได้ปรับแผนลดการระบายน้ำเหลือวันละ 10 เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านท้ายน้ำ
- สถานการณ์ลุ่มน้ำยม
ปัจจุบัน (24 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 น.) ที่สถานีวัดน้ำยม Y.20 อำเภอสอง จังหวัดแพร่ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,047 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที แนวโน้มเริ่มลดลง โดยปริมาณน้ำจะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ที่สถานีวัดน้ำ Y.1C อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,271 ลูกบาศก์เมตร/วินาที สูงกว่าตลิ่ง 1.27 เมตร มีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทานได้ประเมิน สถานการณ์น้ำ พบว่าที่สถานีวัดน้ำ Y.1C คาดว่าระดับน้ำจะสูงถึง 10.40-10.60 ม.รสม. ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม 2568) จากนั้นมวลน้ำดังกล่าวจะไหลต่อไปยังสถานีวัดน้ำ Y.37 อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และรวมกับน้ำจากลำน้ำสาขาไหลลงสู่พื้นที่ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ต่อไป
- สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา
มวลน้ำจากภาคเหนือได้ไหลลงมาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ว่าในช่วง 1-7 วันข้างหน้า สถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,500-1,700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลต่อเนื่องให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ กรมชลประทาน เตรียมทยอยปรับเพิ่ม การระบายน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอัตรา 1,200-1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) กรมชลประทานได้แจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น จะมีการแจ้งข้อมูลให้ทราบเป็นระยะ
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตาม สถานการณ์น้ำ อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนที่อาจตกหนักในระยะนี้ ควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลอื่นๆ ประจำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสอบถามข้อมูลสถานการณ์น้ำได้ที่ สายด่วนกรมชลประทานโทร. 1460 ตลอด 24 ชั่วโมง







