ปตท. - วว. ร่วมยกระดับนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืน

ปตท. - วว. ร่วมยกระดับนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืน

ปตท. - วว. กระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศไทย ภายใต้โครงการคู่ความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ มุ่งยกระดับนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์ม NGR AIoT พลิกโฉมงานวิจัยและภาคอุตสาหกรรมไทย

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่มอบหมายให้ ปตท. และ วว. ร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงาน โดยมี นายรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมโครงการและการปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และดร.จิตรา ชัยวิมล รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมประชุมหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์

ทั้ง 2 ฝ่ายเล็งเห็นถึงโอกาสในการต่อยอด NGR AIoT Platform ของ ปตท. เป็นธุรกิจบริหารจัดการพลังงานและนวัตกรรมด้านอื่นๆ อาทิ การควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องปฏิบัติการ การบริหารจัดการพลังงานในโรงงานและอาคาร และการใช้ เทคโนโลยี IoT ในกลุ่มธุรกิจ SMEs เป็นต้น โดยความร่วมมือระหว่าง ปตท. และ วว. มีที่มาจากโครงการคู่ความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ปี 2567 โดยมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนให้ วว. ยกระดับการดำเนินงานด้าน Core Business Enablers ให้มีระดับคะแนนมากกว่า 2.500 ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบัน วว. ทำคะแนนได้สูงถึง 2.5978 ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปีที่ร่วมมือกัน ซึ่งเป็นความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ โดยผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การประเมินรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Assessment Model: SE-AM) ประจำปี 2567 ปตท. ยังคงสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่มีผลการดำเนินงานด้าน Core Business Enablers เป็นอันดับ 1 จาก 50 รัฐวิสาหกิจไทยที่เข้าร่วมการประเมินต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 5 และเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรก และแห่งเดียวที่มีผลคะแนนสูงถึง Maturity ระดับ 4 โดยมีคะแนนอยู่ที่ 4.0589 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5.00000

ปตท. - วว. ร่วมยกระดับนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ทาง ปตท. ได้นำเสนอโครงการ Energy Management Platform (AIoT Platform) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ Digital Service ของปตท. ที่พัฒนาขึ้นจาก Pain Point ของลูกค้าภาคอุตสาหกรรม มีจุดเด่นคือ การรวมศูนย์ข้อมูลพลังงาน (Data Centralize) และแสดงผลแบบ Visualize ในการตรวจจับความผิดปกติและนำไปสู่การวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน รวมถึงสนับสนุนการคำนวณและลดการปล่อยคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ วว. สามารถนำแพลตฟอร์มนี้มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับการดำเนินงานภายในองค์กรหลายด้าน อาทิ

  • การควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องปฏิบัติการ: โดยเฉพาะการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอาคารเลี้ยงสัตว์ทดลอง ซึ่งเป็น Pain Point ที่ยังไม่สามารถจัดการได้ รวมถึงการนำข้อมูลที่ปัจจุบัน จัดเก็บแบบ Analog (บันทึกบนกระดาษ) เข้าสู่ระบบ Digital เพื่อความรวดเร็วในการประมวลผล และจัดการข้อมูล
  • การบริหารจัดการพลังงานในโรงงานและอาคาร: วว. มีโรงงานที่ใช้กระแสไฟฟ้าสูงมาก เช่น โรงงานผลิตด้าน ICP (Industrial Center for Probiotics) ที่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับรักษาสภาพจุลินทรีย์ ซึ่งสามารถใช้ AIoT ควบคุมเพื่อประหยัดพลังงานในช่วงที่ไม่มีผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังมีการใช้พลังงานในห้องเย็นสำหรับเก็บรักษาพันธุกรรมพืช และการจัดการพลังงานในอาคารต่างๆ กว่า 20 แห่ง ที่ วว. เทคโนธานี
  • การจัดการโรงเรือนปลูกพืช: วว. มีโรงเรือนปลูกพืช เช่น เรือนกระจกที่สถานีวิจัยลำตะคอง ซึ่งมีข้อจำกัดในการลดอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อน การประยุกต์ใช้ AIoT จะช่วยติดตามและสั่งการระบบระบายอากาศให้ทำงานอย่างเหมาะสม ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิ และลดการใช้พลังงานได้ นอกจากนี้ทั้งสองหน่วยงานยังมองเห็นโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้โมเดลความร่วมมือในการศึกษาและพัฒนาในประเด็นสำคัญอื่นๆ 
  • การยกระดับความสามารถในการให้บริการ: เช่น การเสริมสร้างขีดความสามารถในการให้บริการด้านการรับรองระบบงาน Carbon Footprint of Organization (CFO) และ Carbon Footprint of Product (CFP)
  • โครงการ CSR on Process สู่ชุมชน: ด้วยจุดแข็งของ วว. ในการทำงานเชิงพื้นที่และเข้าถึงชุมชนได้อย่างกว้างขวาง สามารถร่วมมือกันพัฒนาโครงการนวัตกรรมการจัดการพลังงานเพื่อชุมชน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างแก่ชุมชน
  • การยกระดับและพัฒนา SMEs: การขยายผลการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ให้เหมาะสมและเข้าถึงกลุ่ม SMEs ได้มากขึ้น

อีกทั้ง วว. ยังสามารถนำแพลตฟอร์มดังกล่าวมาประยุกต์ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในองค์กร โดยความร่วมมือนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างคุณค่าและขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานเพื่ออนาคตของประเทศไทย

"ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำบทบาทของ ปตท. และ วว. ในฐานะผู้นำด้าน นวัตกรรมพลังงาน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นสู่การสร้างสังคมที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ทันสมัย"