ทฤษฎีแห่งความสุข : สุข ... พระธรรมจาริก โดย ธันย่า - ธันยลักษณ์ พรหมมณี

คอลัมน์ "ทฤษฎีแห่งความสุข" ทุกวันจันทร์ที่สองของเดือน สำหรับเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ นำเสนอเรื่อง "สุข ... พระธรรมจาริก" โดย ธันย่า - ธันยลักษณ์ พรหมมณี
พระอุโบสถอันงดงามของวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร สะท้อนความวิจิตรของศิลปกรรมไทย ผสานตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 5 อย่างงดงามทรงคุณค่า ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาที่เชื่อมโยง "ศิลป์ ศีล และสังคม" อย่างลึกซึ้ง
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ธันย่าได้มีโอกาสร่วมงานบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง เพื่อถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม โดยมีพระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาส วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
พิธีดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการพระธรรมจาริก" ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ด้วยการน้อมนำหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนาที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติให้กับราษฎรบนพื้นที่สูง รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในความเป็นไทย และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สู่การเป็นนักพัฒนานำพาความผาสุกสู่ชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างเป็นรูปธรรม
วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นศูนย์รวมของ "ศิลป์แห่งศรัทธา" พระอุโบสถที่งดงามวิจิตรเป็นสถานที่เปิดรับคนจากยอดดอยด้วยความเคารพในความหลากหลาย ศิลปกรรมบนกำแพงเป็นฉากหลังที่ทรงพลังสำหรับการบ่มเพาะนักพัฒนาในผ้าเหลือง ขณะที่ธรรมะจากพระไตรปิฎกเป็นแสงนำทางชีวิตทั้งเมืองและชนบท เป็นการกลับคืนหัวใจสู่ธรรมะ ทั้งของผู้บวชและผู้เฝ้ามอง
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 โครงการพระธรรมจาริก ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 60 ปี โดยมีราษฎรบนพื้นที่สูงซึ่งเป็นผู้ศรัทธาเลื่อมใสและสืบสานพระพุทธศาสนา เข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทแล้วกว่า 12,167 รูป ในจำนวนนี้มีผู้อุปสมบทต่อเนื่องเป็นพระธรรมจาริกกว่า 595 รูป ซึ่งประจำอยู่อาศรมถึง 315 แห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่เป็นนักพัฒนาในผ้าเหลือง ช่วยเหลือชาวบ้าน เผยแผ่ธรรมะ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับปี 2568 มีพุทธศาสนิกชนราษฎรบนพื้นที่สูงจาก 14 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมบรรพชาอุปสมบททั้งสิ้น 196 รูป หลังจากนั้นจะเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย ควบคู่กับวิชาการต่างๆ ทั้งสายปริยัติธรรมและสายสามัญ เพื่อเป็นพื้นฐานในการไปประกอบอาชีพ หรือร่วมงานพัฒนาสังคม โดยผู้ที่ดำรงอยู่ในสมณเพศจะออกปฏิบัติงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาร่วมกับพระธรรมจาริก ส่วนผู้ที่ลาสิกขาบทจะได้นำความรู้ไปหล่อหลอมจิตวิญญาณของตนเอง พร้อมส่งต่อคุณค่าแห่งชีวิตแก่ครอบครัวและชุมชน
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษ โครงการพระธรรมจาริก ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบรมวงศานุวงศ์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบทุนเล่าเรียนหลวง ศาลาปฏิบัติธรรม และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ถือเป็นพลังศรัทธาอันสำคัญที่เกื้อหนุนการธำรงพระพุทธศาสนาในพื้นที่ห่างไกลอย่างมั่นคงและเปี่ยมพระเมตตา
วิทยาการก้าวล้ำ เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบตัว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาชีวิตและความเป็นอยู่เรื่องปากท้องของผู้คนในประเทศ ต่างเต็มไปด้วยแรงกดดันและความเร่งรีบ "ธรรมะ" คือกระจกสะท้อนให้เราเห็นแก่นแท้ของชีวิตอย่างเรียบง่ายและลุ่มลึก "โครงการพระธรรมจาริก" เป็น "ธรรมทานเพื่อสังคม" ที่เปลี่ยนแปลงผู้คนในทุกพื้นที่ให้เห็นคุณค่าใหม่ของชีวิต
การตอบสนองต่อสิ่งเร้า ทำให้เรากลายเป็นบางสิ่งบางอย่างเสมอ
ผลกระทบที่ตามมา จะมากหรือน้อย ล้วนขึ้นอยู่กับมุมมองและทัศนคติในการยับยั้งชั่งใจต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความรัก ความโกรธ ความแค้น ความเสียใจ ความหลงใหล หรือความต้องการเป็นที่ยอมรับ
หากเรามีสติและสามารถปรับทิศทางของตนเองได้ การใช้ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่มีความหมายมากขึ้น
การปฏิเสธความอยากดิบในใจ ไม่ใช่ด้วยการกดทับ แต่ด้วยการเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง
เพราะการมีชีวิตที่ "เบา" อย่างไร้ความหวาดกลัว คือการดำรงอยู่ที่มีคุณค่า ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
โดยเฉพาะในยุคสมัยที่การอยู่ร่วมกับผู้คน กลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที
แล้วพบกับ "ธันย่า" และ "ทฤษฎีแห่งความสุข" ได้ใหม่ ทุกวันจันทร์ที่สองของเดือนในกรุงเทพธุรกิจฉบับตีพิมพ์และทางออนไลน์







