จะเป็นอย่างไร? ถ้าเราทุกคนเป็น 'ฮีโร่อากาศสะอาด' ได้

จะเป็นอย่างไร? ถ้าเราทุกคนเป็น 'ฮีโร่อากาศสะอาด' ได้

สสส. ชวน "หยุดเผา = หยุด PM2.5" เพื่อสุขภาวะที่ดีของตัวเราและโลกใบนี้ เพราะ "อากาศสะอาด" คือสิทธิพื้นฐานของทุกคน

ในทุกๆ ลมหายใจที่เราสูดเข้าไป มีบางสิ่งที่มองไม่เห็นแฝงอยู่ ฝุ่น PM2.5 อนุภาคเล็กจิ๋วที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอด กระแสเลือด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือแม้แต่โรคมะเร็ง แต่ฝุ่นจิ๋วนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่เป็นผลพวงจากพฤติกรรมของมนุษย์และปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะทุกครั้งที่มีการเผาไม่ว่าจะแค่ธูปดอกเดียวในศาลเจ้า หรือไฟป่าครั้งใหญ่ในฤดูแล้ง ล้วนเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับปัญหามลพิษทางอากาศ และนั่นคือเหตุผลที่แคมเปญ “หยุดเผา = หยุด PM2.5” ถือกำเนิดขึ้น โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

"หยุดเผา = หยุด PM2.5" เป็นแคมเปญที่เชื่อว่าทุกคนคือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีหมุดหมายเพื่อตำหนิพฤติกรรมของมนุษย์ แต่ต้องการเชิญชวนให้ทุกคนลุกขึ้นมาเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงช่วยกันทำให้ อากาศสะอาด เกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่ง เพราะหากมองในภาพใหญ่ของการจัดการ แท้จริงแล้ว ปัญหาฝุ่น ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนจะแก้ไขหรือหยุดปัญหาได้ก็ต่อเมื่อเราทุกคนลงมือทำไปตั้งแต่คนธรรมดา คนขับรถยนต์ เกษตรกร เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ที่กำหนดนโยบายของประเทศ ในทุกภาคส่วน โดยสิ่งที่ สสส. มุ่งหวังในแคมเปญนี้คือ การสร้างความเข้าใจกับสังคม ผ่านการอธิบายให้ชัดเจนว่าทำไมการเผาจึงเป็นตัวการสำคัญของฝุ่น PM2.5 และส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างไร ต่อมาคือต้องการจุดประกายและกระตุ้นให้ทุกคนเห็นว่าตัวเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการลดฝุ่น PM2.5 ได้ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน

สสส. พบข้อมูลน่าสนใจว่าแหล่งกำเนิดของ ฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทยส่วนหนึ่งมาจากการเผาและการก่อควันไม่ว่าจะเป็นการเผาในภาคเกษตรกรรมหรือแม้กระทั่งไฟป่า รวมถึงควันที่เกิดในชีวิตประจำวัน แม้แต่การเผาขยะในสวนหลังบ้านเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเพิ่มมลพิษในอากาศได้ จึงเป็นที่มาของการณรงค์ผ่านสปอตโฆษณา โดยใช้กลยุทธ์สื่อสารให้ทุกคนที่ช่วยกัน เป็นตัวแทนของ “ฮีโร่อากาศสะอาด” ในชีวิตประจำวัน ช่วยกันลดฝุ่น PM 2.5 ผ่าน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. ตามหาเห็ดเผาะที่ไม่เผา 2. ผ่ายุทธภูมิสลายตอซังข้าว 3. หมักขยะเพื่อลูกหลาน และ 4. หยุดจุด หยุด PM2.5 โดยเนื้อหาสาระของแคมเปญนี้คือต้องการทำให้เห็นว่าฝุ่น PM 2.5 เป็นเรื่องใกล้ตัวและเราทุกคนช่วยกันป้องกันได้ 

จะเป็นอย่างไร? ถ้าเราทุกคนเป็น \'ฮีโร่อากาศสะอาด\' ได้

โดยเริ่มตั้งแต่เกษตรกร จากเดิมที่เผาตอซังข้าว สสส. ชวนให้หันมาใช้วิธี ไถกลบและหมักตอซังข้าวด้วยจุลินทรีย์ ซึ่งจะช่วยให้เตรียมแปลงปลูกในรอบถัดไปได้เร็วขึ้น ไม่ทำร้ายดิน ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลผลิต เช่นเดียวกับการทำเกษตรโดยการเผาใบอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว หรือเผาซังข้าวโพด สสส. ชวนให้หันมา ตัดอ้อยสด, แปรรูปซัง ใบ และต้นข้าวโพด เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดมลพิษในอากาศ และไม่ทำร้ายสุขภาพ

ขณะที่ชุมชนต่างๆ สามารถส่งเสริมให้เกิดการหยุดเผาขยะและใบไม้แห้งแล้วเปลี่ยนมาทำปุ๋ยหมักได้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการชักชวนให้ร่วมกันไม่ซื้อเห็ดเผาะหรือผักหวานที่มาจากการเผาป่าแล้วหันมาสนับสนุนสินค้าเกษตรที่ปลอดการเผา และโยงไปถึงประชาชนทั่วไปที่บอกว่าเรื่องเล็กๆ เช่นการไปวัดแล้วจุดธูปก็สามารถสร้าง ฝุ่น PM 2.5 ได้ โดยแนะนำให้อธิษฐานด้วยใจแทนการจุดธูป หรือใช้ธูปไร้ควัน ทุกการกระทำเหล่านี้ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เมื่อนำมารวมกัน สสส. เชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยให้คนไทยทั้งชาติได้หายใจเต็มปอด 

นอกจากสปอตโฆษณาแคมเปญ หยุดเผา = หยุด PM2.5 ของ สสส. ยังมีชุดกิจกรรมอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ เช่น การร่วมกับกรมวิชาการเกษตรพัฒนานวัตกรรม หัวเชื้อจุลินทรีย์หยุด PM2.5 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสําหรับเกษตรกรในการกําจัดตอซังข้าวโดยไม่ต้องเผา หัวเชื้อนี้สามารถย่อยสลายตอซังข้าวได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ดินดี ผลผลิตดีขึ้น ลดต้นทุนค่าปุ๋ย และที่สําคัญที่สุดคือ "ช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศ" 

จะเป็นอย่างไร? ถ้าเราทุกคนเป็น \'ฮีโร่อากาศสะอาด\' ได้

ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในจุดเปลี่ยนของการแก้ไข ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืนด้วย พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่อ อากาศสะอาด เพื่อบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศในทุกมิติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา ช่วงระหว่างนี้ เราทุกคนสามารถเริ่มต้นลงมือทำได้ทันที เพียงหยุดเผา ก็หยุดสร้าง PM2.5 ได้ โดยมาร่วมเป็นพลังในการสร้างอากาศสะอาด ไปกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

รับชมสปอตโฆษณาได้ที่

กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส.  เพิ่มเติมได้ที่ : Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส., Line : @thaihealththailand, Tiktok: @thaihealth, Youtube: SocialMarketingTH และ Website : Social Marketing Thaihealth