พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่ง 3 กลยุทธ์ลุยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ 1,800 ล้านบาท

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่ง 3 กลยุทธ์ลุยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ 1,800 ล้านบาท

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่ง 3 กลยุทธ์ลุยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ 1,800 ล้านบาท ชูแบรนด์คุณภาพ ขยายธุรกิจใหม่ และพัฒนาเทคโนโลยี

บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำการบริหารและจัดการ อสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร ตั้งเป้าขยายธุรกิจ รักษาความเป็นที่หนึ่งด้านคุณภาพ ในปีที่ผ่านมากับความสำเร็จในการบริหารโครงการ อสังหาฯ ทะลุ 400 โครงการทั่วประเทศ บริหารพื้นที่มากกว่า 20 ล้าน ตารางเมตร พร้อมชูกลยุทธ์ปี 2567 มุ่งแบรนด์คุณภาพ ขยายธุรกิจใหม่ และพัฒนาเทคโนโลยี ปักธงธุรกิจมุ่งขยายฐานลูกค้าให้หลากหลาย รับบริหารโครงการในกลุ่มที่สามารถแข่งขันได้ดีมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมั่นคง

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ปี 66 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มียอดขายรวม 1,700 ล้านบาท ในปี 2567 คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2566 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย GDP จะปรับตัวอยู่ที่ 2.6% จากปัจจัยสนับสนุนตลาด จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นโยบายภาครัฐที่ส่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน ในปีนี้ พลัสฯ วางแนวทางของธุรกิจคือ Quality Framework พัฒนาระบบการทำงานแบบองค์รวม มุ่งเน้นขับเคลื่อนด้วยคุณภาพ นำศักยภาพความเชี่ยวชาญ ผสานเทคโนโลยีและเข้าใจความต้องการของตลาดมาต่อยอดธุรกิจ เพื่อส่งมอบบริการให้กับลูกค้าอย่างตรงใจสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง 

ในปีนี้มีการตั้งเป้ารายได้มากกว่า 1,800 ล้านบาท PLUS คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงจาก 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ การบริการดูแลที่พักและบริหารโครงการนิติบุคคล, บริหารอาคารเชิงพาณิชย์, LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ และงานตัวแทน ซื้อ ขาย เช่า และที่ปรึกษางานขายโครงการ เน้นธุรกิจในตลาดที่เชี่ยวชาญ ตอกย้ำเป็น One Stop Service และรุกขยายไปในธุรกิจใหม่ๆ คาดว่าขยายพอร์ตเพิ่มได้มากกว่า 450 โครงการ ครอบคลุมทุกโปรดักต์และทุกเซกเมนต์ ทั้งที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน คอมมูนิตีมอลล์ โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงาน พลัสฯ พร้อมรองรับทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่ง 3 กลยุทธ์ลุยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ 1,800 ล้านบาท
 

สำหรับกลยุทธ์และแผนงานของพลัสฯ ในปี 2567 นั้น ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการเติบโต วางกลยุทธ์ 3 ด้าน ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ส่งมอบคุณภาพงานบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ

  1. Quality Brand เสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ด้วยประสบการณ์ในการทำงานกับลูกบ้านอย่างใกล้ชิดมีการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ทำให้เข้าใจถึงความต้องการอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับ Luxury ที่เข้าใจใน Customer Journey เพิ่มศักยภาพทุกจุด Touch Point ในการบริการ สร้างประสบการณ์พิเศษเหนือระดับในทุกขั้นตอน พิถีพิถันการคัดเลือกบุคลากร พร้อมจัดอบรมและตรวจสอบคุณภาพการทำงานอย่างเข้มข้นสม่ำเสมอโดยสถาบัน PLUS Eduplex มีการยกระดับมาตรฐานงานบริการให้กับหลายโครงการ มีทีมผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่การ Design Service & Experience ในการอยู่อาศัย รองรับความต้องการแบบ Specialise Service พลัสฯ เข้าใจดีว่าหัวใจสำคัญของธุรกิจบริการคือ การรักษามาตรฐานการบริการให้ได้ระดับสากล พลัสฯ มุ่งมั่นรักษาความเป็นที่หนึ่งด้านคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานของการบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นให้ลดลง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องมากกว่า 90%
  2. Business Opportunities ต่อยอดจากธุรกิจการบริหารจัดการงานบริหารนิติบุคคล ขยายธุรกิจใหม่เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง Customer Centric เสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ ให้ครอบคลุมความต้องการแบบ 360 พลัสฯ จึงพัฒนาบริการต่างๆ เพิ่มขึ้นให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนไป ในปีนี้เน้นขยายกลุ่มลูกค้าระดับ luxury เพื่อให้สอดรับกับทิศทางตลาด อสังหาฯ ที่บริษัทฯ พัฒนาอสังหาฯ ต่างมุ่งขยายโครงการในระดับนี้มากขึ้น จึงเพิ่มโอกาสให้ทางธุรกิจ ในเมืองตากอากาศ นอกจากบริหารงานขายและการตลาด ยังเสริมบริการหลังการเข้าอยู่อาศัยด้วย Villa Management เพื่อตอบโจทย์ Total Solution ให้กลุ่มนักลงทุน Investment นำร่องที่แรกในจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมี LIV-24 เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ในปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างมาก สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้โตขึ้นถึง 118% ทำให้ปีนี้ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตจากโครงการที่พักอาศัย สู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ รุกเข้าไปในธุรกิจอื่นๆ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของตลาดการดูแลความปลอดภัยแบบครอบคลุม
  3. PLUS Technology พลัสฯ ให้ความสำคัญกับความต้องการใช้งานของลูกบ้าน จึงมีการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับ Customer Experience มาตลอด ในปีนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ครอบคลุมการทำงานหลายระบบมากขึ้น เช่น Home  Application เป็นศูนย์กลางข้อมูลในการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกบ้านและนิติบุคคล มีการ Update Feature ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกบ้านที่เปลี่ยนไป เช่น การลงทะเบียนสัตว์เลี้ยง การจัดการพัสดุที่สะดวกรวดเร็วขึ้น นำเสนอ Plus Concierge Service ที่คัดสรรงานบริการตามความต้องการใช้งานจริงของลูกบ้าน เช่น บริการทำความสะอาด ล้างแอร์ งานซ่อมบำรุง โดยทำการคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพราคาพิเศษ และแอปพลิเคชันใช้งานง่ายจองบริการได้ด้วยตัวเอง

"ในวันนี้ PLUS ประกาศชัดเจนเป็นบริษัทฯ อันดับหนึ่งในใจของลูกค้า เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เรามุ่งมั่นเป็นเลิศในการสร้างมาตรฐานและยกระดับการบริการของเราให้เป็นไปตามสากล ด้วยความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกๆ ด้าน พลัสฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมต่อยอดธุรกิจให้เติบโตทันกับความต้องการของตลาด มีการลงทุนระบบด้านเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น วางสัดส่วนรายได้อันดับ 1 มาจากการบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารเพื่อการพาณิชย์ถึง 80% ทั้งนี้พร้อมเดินหน้ามองหาลูกค้ารายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในปีนี้" นายอนุกูล กล่าว