PRINC จับมือพันธมิตร 20 แห่ง ลงนามร่วมกับ อบก. - ธรรมศาสตร์ มุ่งสู่ Net Zero

PRINC จับมือพันธมิตร 20 แห่ง ลงนามร่วมกับ อบก. - ธรรมศาสตร์ มุ่งสู่ Net Zero

PRINC จับมือพันธมิตร 20 แห่ง ลงนามความร่วมมือกับ อบก. และธรรมศาสตร์ เป็นองค์กรนำร่อง มุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science-Based Target

บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC ร่วมกับองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นองค์กรนำร่องรวม 20 แห่ง ลงนามความร่วมมือโครงการส่งเสริมการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science-Based Target จัดโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อติยา อาวัชนาการ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC กล่าวว่า แม้ธุรกิจโรงพยาบาลจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเปรียบเทียบน้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ แต่ก็ยังสร้างผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศจากการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะจากการใช้พลังงาน หรือเกิดขยะของเสีย แต่ด้วยปณิธานของเครือที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ในการร่วมดูแลคน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงทำให้โรงพยาบาลใน เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดทั้งห่วงโซ่การให้บริการทางการแพทย์

PRINC จับมือพันธมิตร 20 แห่ง ลงนามร่วมกับ อบก. - ธรรมศาสตร์ มุ่งสู่ Net Zero  

อติยา ยังกล่าวต่อว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว PRINC ร่วมกับพันธมิตรอีก 6 องค์กร เข้าร่วมโครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอนเพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศของ อบก. และได้เริ่มชดเชยคาร์บอน และมีสถานะ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ตั้งแต่ในปี 2564 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังดำเนินการเพื่อเปลี่ยนมาใช้ พลังงานสะอาด โดยในปัจจุบัน PRINC ติดตั้ง Solar Rooftop แล้วใน รพ. ในเครือ 5 แห่ง และสามารถใช้พลังงานสะอาดทดแทนในสัดส่วนกว่า 20% ของปริมาณการใช้ไฟทั้งหมด 

"PRINC ได้เตรียมกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายในการมุ่งสู่ Net Zero หรือ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2049 ซึ่งการลงนามในครั้งนี้จะนำไปสู่การจัดทำแผนและแนวทางที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ดังกล่าวตามมาตรฐานสากล Science-based target เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไว้ให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส นอกจากนี้เรายังต้องศึกษาแนวทางในการดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มการดูดกลับหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในระยะยาวอีกด้วย" อติยา กล่าวทิ้งท้าย