'เวฟ บีซีจี' ธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังความยั่งยืนเพื่อโลก และธุรกิจ

'เวฟ บีซีจี' ธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังความยั่งยืนเพื่อโลก และธุรกิจ

เวฟ บีซีจี (Wave BCG) แนวร่วมด้านความยั่งยืน Green Heroes for Life พร้อมเป็นเบื้องหลังให้องค์กรไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป็นพันธมิตรของชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ภายใต้วิกฤตการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ทำให้ทั่วโลกต่างร่วมมือกันปรับตัวเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน นโยบายของภาครัฐในหลายประเทศต่างออกมาตรการเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันให้องค์กรต้องไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ การหยุดปัญหาสภาพภูมิอากาศให้ไม่สูงไปกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ให้ได้หลายองค์กรที่อยู่ภายใต้ซัพพลายเชนของแต่ละประเทศ ต่างต้องมีการปรับตัวอย่างเต็มที่เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปต่อ และเพื่อช่วยโลกไปพร้อมๆ กัน

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) และบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด เผยว่า เวฟ บีซีจี มีเป้าหมายในการผู้สนับสนุนให้องค์กรในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรรลุเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าในการแข่งขันบนเวทีโลก ด้วยการเป็นที่ปรึกษา และบริการแบบ One-Stop-Service ครอบคลุมการจัดหาโซลูชันด้านการบริหารจัดการพลังงาน กิจกรรมด้านการสร้างความยั่งยืน และการบริการคาร์บอนเครดิต เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพราะหลากหลายมาตรการที่หลายประเทศทั่วโลกออกมาควบคุม การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ล้วนส่งผลและผลักดันให้ธุรกิจต่างต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Carbon Tax ที่นานาประเทศต่างออกมาตรการ หรือมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) มาตรการภายใต้นโยบาย the European Green deal ป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเข้ามาในยุโรป โดยนำร่อง 7 รายการ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ปุ๋ย ปูนซีเมนต์ ไฟฟ้า และไฮโดรเจน ถ้าอยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้จำเป็นต้องเตรียมการเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของ CSR เป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นคือ เรื่องของประเด็นด้านซัพพลายเชน

"นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการเข้าถึงแหล่งทุนของภาคธุรกิจ เช่น กองทุนต่างประเทศ ที่จะต้องมีคะแนนด้าน ESG เพื่อเข้าถึง Green Finance แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการขับเคลื่อน Thailand Taxonomy คือมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมสำหรับประเมินการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเข้าถึงบริการและเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อนาคตสถาบันการเงินก็มีการปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนเช่นกัน หากธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจที่ปลดปล่อยคาร์บอนจำนวนมาก ธนาคารเองก็ไม่สามารถไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้เช่นกัน" นายเจมส์ กล่าว

นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน เวฟ บีซีจี เป็นผู้ถือครองคาร์บอนเครดิตในอันดับต้นๆ ทั้งในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลักๆ ได้มาจาก พลังงานหมุนเวียน และโครงการเพื่อผลิตคาร์บอนเครดิตต่างๆ โดยในส่วนของการเป็นที่ปรึกษาเวฟ บีซีจี จัดว่าเป็นที่ปรึกษาทั้งมุมของผู้ซื้อและผู้ที่ต้องการขายคาร์บอนเครดิต

ในมุมผู้ซื้อ สำหรับองค์กรที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของตัวเอง เวฟ บีซีจีจะช่วยตั้งแต่เริ่มคำนวณคาร์บอนเครดิตให้องค์กรนั้นๆ และหาโอกาสหรือโซลูชันให้สามารถลดคาร์บอนภายในองค์กรได้มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การร่วมกันทำ Road Map ดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน การวางแผนการเงิน โดยมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เข้ามาช่วยบริหารจัดการ ทั้งเรื่องการให้คำปรึกษา และโซลูชัน นอกจากนี้เวฟ บีซีจี ยังได้เป็นพาร์ทเนอร์กับสถาบันการเงินอีกด้วย

ในมุมของผู้ขาย เวฟ บีซีจี ทำงานร่วมกับผู้รับรองมาตรฐานในการจะขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต อาทิ ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน หรือผู้ประกอบการที่มีโครงการลดก๊าซเรือนกระจก โดยบริการให้ตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การขอมาตรฐาน การกำหนดราคาขาย พร้อมทั้งการรับซื้อ เรียกได้ว่าช่วยเป็นตัวแทนได้อย่างครบวงจร

เวฟ บีซีจียังการจัดตั้งโครงการ Climate Project เป็นโครงการที่ช่วยให้องค์กรที่ต้องการลดคาร์บอนมาร่วมมือกัน เช่น โครงการปลูกป่า ซึ่งปัจจุบันมีแผนที่จะปลูกป่าทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ถึง 3 ล้านไร่ มีการพัฒนาพันธุ์ไม้ชื่อว่าซิลเวอร์โอ๊ค มาปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีอัตราการเติบโตที่ดี และมีความแข็งแกร่ง สามารถปลูกได้ทุกที่ ทุกสภาพดิน ไม่ว่าจะเป็นกลางแดด ใต้ร่ม โอกาสรอดมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ "ซิลเวอร์เวฟ" กับ "โกลเด้นเวฟ" ความโดดเด่นที่นอกเหนือจากความทนทานคือ สามารถดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าต้นไม้ปกติ ยิ่งไปกว่านั้น เวฟ บีซีจียังกำลังคิดค้นนวัตกรรมการปลูกพืชเกษตรต่างๆ ปัจจุบันเวฟ บีซีจีอยู่ในคณะทำงานของกรมวิชาการเกษตร

นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องเกษตรเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เราจึงต้องสนับสนุนชาวนา ชาวไร่ ในการพัฒนาด้านการเกษตรเพื่อลดคาร์บอน เช่น มันสำปะหลัง มะม่วง ทุเรียน อ้อย และอื่นๆ ล่าสุดกำลังทดสอบการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง เพราะไทยเป็นผู้ผลิตข้าวส่งออกเป็นรายต้นๆ ของโลก กลยุทธ์คือ เดิมทีการปลูกข้าวของไทยเป็นลักษณะให้ต้นข้าวแช่น้ำอยู่ในนา ซึ่งการแช่น้ำส่งผลให้ต้นข้าวบางส่วนเน่า การเน่าของต้นข้าวจะทำให้เกิดก๊าซมีเทนลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยาอากาศ ซึ่งเทียบกับคาร์บอนก็เกือบ 30 เท่า ทว่าการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง นอกจากเป็นการลดการเน่าของต้นข้าวแล้ว เกษตรกรยังสามารถลดการใช้น้ำได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ลดมีเทนได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วย ลดก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างรวดเร็ว เหนืออื่นใดสามารถเปลี่ยนเป็นคาร์บอนเครดิตได้ ทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมมีรายได้เสริมจากการขายคาร์บอนเครดิต ขณะที่ภาคธุรกิจที่ร่วมลงทุนก็สามารถนำไปเป็นคาร์บอนเครดิตได้เช่นกัน 

การสนับสนุนให้องค์กรไปสู่ความยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือเรื่องของเทคโนโลยี เวฟ บีซีจีได้เลือกเทคโนโลยีสำหรับสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในทุกๆ อุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เรียกว่า Climate Project เพื่อที่จะตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจที่จะใช้เทคโนโลยีไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งได้มีการเลือกโซลูชันจากทางชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในฐานะผู้ชำนาญการด้านการสร้างความยั่งยืนระดับโลก

นอกจากนี้เวฟ บีซีจียังเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดนิทรรศการ หรืออีเวนต์ที่ผู้จัดงานต้องการให้กิจกรรมที่เกิดขึ้นมีคาร์บอนเป็นศูนย์ อีกด้วย 

นายสเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า การร่วมกันต่อสู้กับ การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และสร้างความยั่งยืน นับว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจในปัจจุบัน ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับ ทุกองค์กรไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ จะเป็นองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสถาบันต่างๆ ก็สามารถมาร่วมแบ่งปันเรื่องราวด้านความยั่งยืนร่วมกัน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสและการปฏิบัติไปสู่ความยั่งยืนของโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"เราได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในการมาร่วมเล่าถึง เป้าหมายด้านความยั่นยืนและวิธีดำเนินการขององค์กรนั้นๆ ในโครงการ Green Heroes for Life ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แต่ละองค์กรมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และความเป็นผู้นำในการก้าวสู่องค์กรที่ยั่งยืน" นายสเตฟาน กล่าว

ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง Green Heroes for Life สร้างองค์กรที่ยั่งยืน และมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคตร่วมกัน สนใจเข้าร่วม คลิกที่นี่