'เครดิตบูโร' ติดกี่ปี และมีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

เครดิตบูโร เป็นบริษัทที่มีหน้าที่ในการเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อในทุกประเภท โดยจะมีทั้งข้อมูลบ่งชี้ถึงตัวลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อ เช่น รายละเอียดการชำระหนี้ ทั้งที่ชำระตรงเวลา ล่าช้า หรือผิดนัดชำระ เป็นต้น โดยสถาบันการเงินต่างๆ จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาทำการพิจารณาอนุมัติให้กับผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งใครติดเครดิตบูโรจากการค้างชำระหนี้อยู่ แต่เกิดความกังวลใจ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร วันนี้มีคำตอบมาบอก

เครดิตบูโรติดกี่ปี ? 

ปกติแล้วเครดิตบูโรจะแสดงประวัติสินเชื่อย้อนหลัง 3 ปี และกรณีที่ปิดหนี้หมด หรือไม่ใช้เครดิตแล้ว รายงานประวัติสินเชื่อในเครดิตบูโรก็จะค่อยๆ ถอยไปทีละเดือนจนครบ 3 ปี ทางบริษัทข้อมูลเครดิตจะทำการยืนยันสถานะเครดิตของลูกค้าเป็นหมายเลข 11 ที่หมายถึง "ปิดบัญชี" สำหรับกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้และค้างชำระเกิน 90 วัน ปัจจุบันกำหนดให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลสินเชื่อคงค้างให้กับบริษัทข้อมูลเครดิตต่อเนื่องเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี 

ติดเครดิตบูโรต้องแก้ไขยังไง ?

แม้ว่าเครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลเครดิตต่อเนื่องเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี แต่ข้อมูลเหล่านี้จะคงอยู่ในระบบไปนาน 10 - 20 ปี สำหรับวิธีแก้ไขประวัติเมื่อติดเครดิตบูโรแบ่งออกเป็น 2 วิธี ดังนี้

• วิธีที่ 1 ผู้มีประวัติเครดิตเสียที่ต้องการขอสินเชื่อกับธนาคารอย่างเร่งด่วน : ต้องทำการชำระหนี้ปัจจุบันทั้งหมดภายในระยะเวลา 3 ปีถ้วน และเมื่อเคลียร์หนี้ครบแล้ว ทางบริษัทข้อมูลเครดิตจะทำการยืนยันสถานะเครดิตเป็นหมายเลข 11 หรือสถานะ "ปิดบัญชี"
• วิธีที่ 2 ผู้มีประวัติเครดิตเสีย แต่ไม่มีความจำเป็นหรือรีบร้อนในการขอสินเชื่อ สามารถรอเวลา 3 ปี : เพื่อให้ประวัติเครดิตที่ค้างชำระอยู่นั้นถูกลบออกจากระบบของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติโดยอัตโนมัติ

ประวัติสินเชื่อย้อนหลังที่ถูกจัดเก็บโดย บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงความสามารถและความตั้งใจในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งธนาคารจะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติเครดิตเสีย สถาบันการเงินมีโอกาสที่จะไม่อนุมัติให้ สำหรับคนที่ไม่มั่นใจประวัติเครดิตของตนเองเป็นอย่างไร สามารถเข้าไป เช็กเครดิตบูโรออนไลน์ ก่อนขอสินเชื่อด้วยตนเองได้เลย