รู้เท่าทัน "โรคต้อหิน" สัญญาณอันตรายเสี่ยงตาบอดถาวร

รู้เท่าทัน "โรคต้อหิน" สัญญาณอันตรายเสี่ยงตาบอดถาวร

"พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล" จักษุแพทย์เฉพาะทางโรคต้อหิน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้ความรู้เกี่ยวกับ "โรคต้อหิน" อีกหนึ่งภัยเงียบคุกคามการมองเห็น หากละเลย อาจทำให้ตาบอดถาวรได้

ปัจจุบัน "โรคต้อหิน" เป็นสาเหตุอันดันต้นๆ ที่ทำให้เกิดการตาบอดอย่างถาวรในประชากรโลก และมีแนวโน้มในการเกิดโรคต้อหินมากขึ้น ซึ่งทาง World Glaucoma Association and World Glaucoma Patient Association หรือชมรมต่อต้านต้อหินและชมรมผู้ป่วยต้อหิน ได้เล็งเห็นถึงภัยเงียบของต้อหิน จึงได้จัด "สัปดาห์ต้อหินโลก" เพื่อให้จักษุแพทย์และประชากรทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญและทราบถึงลักษณะอาการของโรคนี้ 

พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล จักษุแพทย์เฉพาะทางโรคต้อหิน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า โรคต้อหิน เป็นโรคทางตาชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรที่พบได้บ่อยที่สุด โดยในระยะแรก ผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการแต่สายตาจะค่อยๆ พร่ามัวลงจนตาบอดในที่สุด สาเหตุของโรค เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา ความดันในลูกตาเพิ่มสูงขึ้นจนทำลายประสาทตา สำหรับอาการของโรคนั้นจะมีลักษณะและความรุนแรงของโรคแตกต่างกันไป บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ ตามัว ตาแดง เห็นแสงรุ้งรอบๆ ดวงไฟ หรือปวดตา ปวดศีรษะข้างเดียวกับดวงตาในกรณีเกิดขึ้นเฉียบพลัน โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคต้อหิน ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาหรือได้ความกระทบกระเทือนทางสายตา รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ

พญ.วรัฏฐา ให้ความรู้ต่อว่า โรคต้อหิน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่สามารถป้องกันและควบคุมการสูญเสียการมองเห็นได้ โดยปัจจุบันการรักษาสามารถทำได้ด้วยการลดความดันลูกตา ซึ่งทำได้หลายวิธี ได้แก่ 

  • การรักษาด้วยยา เป็นการใช้ยาหยอดตาที่ออกฤทธิ์ลดการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาหรือช่วยให้การไหลเวียนออกของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาดีขึ้น เพื่อลดความดันลูกตา 
  • การรักษาด้วยเลเซอร์ ตัดแต่งเนื้อเยื่อที่ตา เพื่อระบายน้ำเลี้ยงตาให้ไหลออกได้เร็วขึ้น และไม่ค้างอยู่ในดวงตามากเกินไปจนไปเพิ่มความดันในลูกตา
  • การผ่าตัด เพื่อทำทางระบายน้ำเลี้ยงตาหรือใส่ท่อเข้าไปเพื่อลดความดันตา ในกรณีที่ที่ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาและเลเซอร์ไม่สามารถควบคุมความดันในลูกตาได้ ซึ่งการรักษาจักษุแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะของผู้ป่วยแต่ละคน 

"การป้องกันที่ดีที่สุด ควรหมั่นตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นจากโรคต้อหิน" พญ.วรัฏฐา กล่าว

ปัจจุบัน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขาโรค เช่น ต้อหิน ต้อกระจก โรคจอประสาทตา น้ำวุ้นตา โรคกล้ามเนื้อตา เป็นต้น พร้อมด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย ทำให้การรักษาสามารถทำได้อย่างครบวงจร การตรวจพบได้เร็ว ได้รับการรักษาเร็ว ช่วยให้การมองเห็นเป็นปกติได้ อย่าละเลยที่จะดูแลดวงตาของตนเองและคนที่รัก