ยิ่งกว่าละคร เมียบังคับผัวพิการ เร่ขอทาน โดดสะพาน จนท.ช่วยส่งบ้านเกิดต้องอึ้ง

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เมียบังคับผัวพิการ ออกขอทาน สุดท้ายผัวพิการ ทนไม่ไหวกระโดดสะพาน หวังฆ่าตัวตาย กลับบ้านเกิด อึ้งทุกข์ยาก ถูกตัดไฟฟ้ามานานกว่า 3 เดือน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งมีชายพิการถอดขาเทียม และกระโดดจากสะพานพระราม 4 ลงแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ สามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำ ได้อย่างปลอดภัย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบ นายจักรพงศ์ อายุ 39 ปีชาว จ.สุพรรณบุรี ร่างกายไม่สมบูรณ์พิการขาขวาและมือซ้าย โดยเจ้าตัวสารภาพว่า พยายามก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกพยายามกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่มีพลเมืองดีมาพบเข้า จึงได้เกลี้ยกล่อมและยอมใจอ่อนไม่ก่อเหตุ แต่ครั้งนี้ตัดสินใจก่อเหตุอีกครั้ง โดยถอดขาเทียมเอาไว้ด้านบนสะพาน ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงมาในแม่น้ำเจ้าพระยา แต่มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุกาณณ์ สามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำได้

ยิ่งกว่าละคร เมียบังคับผัวพิการ เร่ขอทาน โดดสะพาน จนท.ช่วยส่งบ้านเกิดต้องอึ้ง

นายจักรพงศ์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่พยายามฆ่าตัวตาย เนื่องจากถูกภรรยาวัย 58 ปี ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง และตนเองก็มีรายได้จากการร้องเพลงเปิดหมวก และนั่งขอทานย่านปากเกร็ด ทุกครั้งที่ออกไปนั่งขอทาน หรือร้องเพลง จะมีภรรยาคอยไปนั่งเฝ้าอยู่ห่างๆ พอมีคนใจบุญให้เงิน ภรรยาก็จะเดินมาเก็บไป ทำแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เช้ายันมืด หลังกลับเข้าห้อง ภรรยาจะแบ่งเงินที่เป็นรายได้คนละครึ่ง และจะให้ตนเองอยู่แต่ในห้อง ส่วนตัวภรรยาจะออกไปกินเหล้า หรือไปหาชายอื่น โดยทุกครั้งจะล็อกห้องไว้ หรือนำขาเทียมตนไปด้วย เพราะกลัวว่าตนเองจะหลบหนี

“บางครั้งผมหาเงินได้ไม่เพียงพอ หรือมีการโต้เถียงกัน ภรรยาก็จะลงมือทำร้ายร่างกาย และบางครั้งจะนำชายอื่น มาร่วมทำร้ายร่างกายผมด้วย ผมอยู่ในสภาพนี้มา 3 ปี อึดอัดมาก อีกทั้งภรรยายังไม่ให้มีการติดต่อกับทางครัวที่อยู่ จ.สุพรรณบุรี วันนี้จึงตัดสินใจหนีปัญหา และความทุกข์ทรมาน โดยมาที่สะพานพระราม 4 อีกครั้ง ซึ่งตั้งใจกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ก็มีคนช่วยเหลือไว้ได้” หนุ่มพิการ กล่าว
 

ยิ่งกว่าละคร เมียบังคับผัวพิการ เร่ขอทาน โดดสะพาน จนท.ช่วยส่งบ้านเกิดต้องอึ้ง


 อย่างไรก็ตาม ภายหลัง นายจักรพงศ์ เล่าเรื่องราวที่เกิดเหตุขึ้นให้ฟัง ทางอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงได้สอบถามว่า อยากกลับไปกับครอบครัวที่ จ.สุพรรณบุรี หรือไม่ โดยนายจักรพงศ์ ตอบอย่างไม่คิดว่า อยากกลับบ้านมาก อยากกลับมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร หลังจากพูดจบทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงได้นำนายจักรพงศ์ ขึ้นรถไปส่งบ้านในพื้นที่ ต.สนามคลี อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ทันที หลังจากที่ทางทีมกู้ภัยพานายจักรพงศ์ ถึงบ้านก็ต้องอึ้งด้วยความสงสารมากไปกว่าเดิม เพราะบ้านถูกตัดไฟฟ้ามานานกว่า 3 เดือน มีคุณพ่อของนายจักรพงศ์ เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีเด็ก และผู้ใหญ่ในบ้าน รวม 6 ชีวิต ที่มีความเป็นอยู่ยากลำบาก แม้ข้าวสารกรอกหม้อแถบจะไม่มี