ร่าง "สรพงศ์ ชาตรี" ถึงวัดหลวงปู่โต ท่ามกลาง ปชช.รอต้อนรับด้วยความเศร้า

ร่าง "สรพงศ์ ชาตรี" ถึงวัดหลวงปู่โต ท่ามกลาง ปชช.รอต้อนรับด้วยความเศร้า

ร่าง “สรพงศ์ ชาตรี” กลับถึงมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตา บารมี อ.สีคิ้ว โคราช แล้ว ท่ามกลาง ประชาชนรอต้อนรับจำนวนมากด้วยความโศกเศร้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 เมษายน 2565) นางสาว "ดวงเดือน จิไธสงค์" ภรรยา และคณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตา บารมี อำเภอสีคิ้ว ได้เคลื่อนร่าง “สรพงศ์ ชาตรี” จากวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร มาถึงมหาวิหาร มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แล้วในเวลา 12.39 น. พร้อมกันนี้ คณะกรรมการมูลนิธิฯได้อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาที่ มหาวิหารมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่ามกลางความโศกเศร้าของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารอรับเป็นจำนวนมาก โดยร่างของสรพงศ์ฯถูกนำไปตั้งไว้ภายในวิหารก่อนเตรียมประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ สรพงศ์ ชาตรี ทุกวันพฤหัสบดี จนถึงวันพระราชทานเพลิงศพในต้นเดือนพฤศจิกายน 2565

 

พระภาวนา ประชานาถ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมากล่าวว่า สรพงศ์ ชาตรี ได้สร้างคุณความดีให้กับ จ.นครราชสีมามาโดยตลอด โดยมีความตั้งใจสรพงศ์ฯจะสร้างองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หุ้มด้วยทองคำ ขนดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกับสร้างพระนอน ขนาดความยาวกว่า 89 เมตร เท่ากับสนามฟุตบอล หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและคนไทยทั่วประเทศได้มากราบสักการะเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน รวมทั้ง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านพระพุทธศาสนาที่สำคัญของ จ.นครราชสีมา แต่กลับต้องมาเสียชีวิตลงก่อน การนำร่างของสรพงศ์ ชาตรี กลับมาที่มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ก็เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะเข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และช่วยกันทำนุบำรุงองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หุ้มด้วยทองคำ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกับสร้างพุทธไสยาสน์ทองสัมฤทธิ์ หรือพระนอน ขนาดความยาวกว่า 89 เมตร เท่ากับสนามฟุตบอล ให้แล้วเสร็จตามเจตนารมณ์ ของสรพงศ์ ชาตรี ฉะนั้น ทางมูลนิธิฯ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันสืบสานเจตนารมณ์ของสรพงศ์ ชาตรี ให้สำเร็จลุล่วง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อวงการพุทธศาสนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยต่อไป

ด้านนางสาวสมบูรณ์ วิจันทึก ชาวบ้านโนนกุ่ม อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมกับพระเอก “สรพงศ์ ชาตรี”ก่อตั้งมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)เมตตาบารมี ซึ่งสรพงศ์ฯ เสมือนพระผู้มีแต่ให้ คิดถึงแต่ประโยชน์ของคนอื่น มากกว่าตนเอง มีความเสียสละและเป็นที่รักของชาว อ.สีคิ้ว ทุกคน ตนรู้สึกว่าได้สูญเสียบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งไป ซึ่งถ้ายังมีชีวิตอยู่ พระเอกสรพงศ์ฯก็จะมีโอกาสสร้างคุณประโยชน์ และสร้างคุณงามความดีได้มากกว่านี้ ตนจึงอยากจะขอเชิญชวนทุกคนที่รัก “สรพงศ์ ชาตรี” ให้มาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ทุกวันพฤหัสบดีและช่วยกันสานเจตนารมณ์ของพระเอกให้สำเร็จลุล่วงต่อไป



ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า นางสาวดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยาของพระเอก สรพงศ์ ชาตรี ได้ทำเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพไปยังสำนักพระราชวังเรียบร้อยแล้ว และคาดว่า จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ สรพงศ์ ชาตรี ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่จะถึงนี้ ณ มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา.