สปสช. เยียวยา 3.2 แสนบาท ให้ครอบครัวแม่ป่วยไต ติด "โควิด-19" ตายในรพ.

สปสช.เยียวยา 3.2 แสนบาท ให้ครอบครัวแม่ป่วยไตติดโควิด-19 ตายในรพ. ญาติ ระบุ อยากให้มีการเข้มงวดมากกว่านี้จะได้ไม่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 65 จากกรณี นางประจบ เป้าทอง อายุ 87 ปี ป่วยเป็นโรคไตและเกาท์ เป็นผู้ป่วยติดเตียงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีลูกสาวชื่อ นางจิตราภรณ์ เครือกล่อม อายุ 56 ปี ทำหน้าที่นอนเฝ้าดูอาการแม่ของตัวเอง จนถึงวันที่ 10-13 ก.พ. 65 ได้ขอผลัดเปลี่ยนเวรกับพี่สาว ตนเองขอกลับบ้านและมาทราบ ซึ่งในระหว่างนั้นก็รู้สึกไม่สบายตัวก็ได้ไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบติดเชื้อโควิด-19 และมั่นใจว่าติดเชื้อโควิดมาจากโรงพยาบาลตรังอย่างแน่นอน ขณะที่เฝ้าดูแลแม่ตนเองไม่ได้ไปไหนต้องระมัดระวังแต่ก็ยังติดเชื้อ ซึ่งโดยปกติแล้วญาติๆ ที่เฝ้าทุกคนต้องผ่านการสวอปก่อนจะที่ขึ้นตึกเฝ้าไข้ผู้ป่วยได้ ส่วนพี่สาวที่มาช่วยเฝ้าไข้ได้ทำการสวอปแต่ผลเป็นลบ ในขณะที่แม่ที่นอนรักษาโรคไตกลับติดโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลจึงได้แยกตัวและพาเข้ารักษาตามขั้นตอน จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนตนเองรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 15 วัน โดยลูกๆ ติดใจแม่ป่วยโรคไตรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่กลับติดเชื้อโควิด-19 ลงปอดเสียชีวิต

ด้านนายแพทย์สมบัติ สธนเสาวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง เผยเตรียมประสานเข้าพูดคุยกับญาติ แจงข้อเท็จจริง และในส่วนเรื่องของการเยียวยาเนื่องจากว่าทางกระทรวงสาธารณสุขไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ก็จะทำการพูดคุยกับญาติต่อไป เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย

จากคำชี้แจงของโรงพยาบาลตรัง ทำให้ญาติต้องดำเนินการต่อโดยการทำหนังสือร้องเรียนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จ และพิจารณาเงินเยียวยาจากเหตุสุดวิสัยที่เกิดขค้นในโรงพยาบาลตรัง จนเป็นเหตุให้นางประจบ ติดเชื้อโควิด และ เสียชีวิตดังกล่าว

คืบล่าสุดวันนี้ (24 มี.ค) นางจิตราภรณ์ เครือกล่อม อายุ 56 ปี พร้อมญาติ ได้เดินทางไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง เข้าพบเจ้าหน้าที่ห้องประกันสุขภาพศูนย์ปฏิบัติงานการไกล่เกลี่ย เพื่อรับทราบผลการวินิจฉัยการยืนคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ทางคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จังหวัดตรัง ได้ประชุมเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 65 พิจารณาเห็นว่ากรณีนางประจบ เป้าทอง เข้าตามเกณฑ์ที่กำหนดสมควรได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 320,000 บาท โดยไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด

ด้าน นางจิตราภรณ์ เครือกล่อม บอกว่า ตนเองและครอบครัวพอใจแล้วก็จะไม่ดำเนินการอะไรแล้ว เรามีความพึงพอใจที่เขาเยียวยาให้ ซึ่งทางคณะกรรมการทุกท่านก็ให้ความเป็นธรรมที่มีการมอบเงินเยียวยาให้ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าทางผู้เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลอยากให้มีการเข้มงวดมากกว่านี้จะได้ไม่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น