ผบ.พล.พัฒนา1 ไม่แจ้งความ วัดท่าไม้ หวั่นกระทบชาวบ้าน ให้ทำตามกฎหมายใน 30 วัน

ผบ.พล.พัฒนา1  ไม่แจ้งความ วัดท่าไม้ หวั่นกระทบชาวบ้าน ให้ทำตามกฎหมายใน 30 วัน

ผบ.พล.พัฒนา 1  ส่งหนังสือแจ้งศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย หลังเปลี่ยนใจตั้งเป็นมูลนิธิฯ วอนทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนปฏิบัติ-กฎหมาย ภายในระยะเวลา 30 วัน ชี้เป็นหน้าที่กรมธนารักษ์เรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง เผยไม่แจ้งความ หวั่นกระทบชาวบ้าน

23 มี.ค. พลตรี มานิต ศิริรัตนากูล ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 (ผบ.พล.พัฒนา 1) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีว่า ตอนนี้ในขั้นต้นทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์การยื่นเช่าที่ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ที่มอบหมายให้กองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบก ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแล

โดยขอเปลี่ยนจากวัตถุประสงค์การเช่าจากเดิมที่จดทะเบียนว่าจะทำเป็นพื้นที่วัด มาเป็นพื้นที่ตั้งมูลนิธิฯแทน โดยเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ทางกองพลพัฒนาที่ 1ได้แจ้งด้วยวาจากับทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยไปแล้วว่าให้ดำเนินการตามขั้นตอน

และหลังจากนี้จะมีหนังสือแจ้งตามไปเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนปฏิบัติและกฎหมายในเรื่องของการขอยื่นเช่าพื้นที่ภายในระยะเวลา 30 วัน

ส่วนการดำเนินการก่อนหน้านี้ที่ตอนแรกขอยื่นจดทะเบียนเช่าพื้นที่เพื่อทำเป็นวัด แต่กลับมาทำเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนั้น ทางกรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะต้องไปดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน

เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยเพิ่งจะขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่าเพื้นที่เป็นการจัดตั้งมูลนิธิฯเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ถือเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย จึงต้องดำเนินการเรียกค่าเสียหาย ในส่วนของกองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบกมีหน้าที่ดำเนินการให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยปฏิบัติตามเงื่อนไขเท่านั้น

เมื่อถามว่า จะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญากับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยหรือไม่ พลตรี มานิต กล่าวว่า เรื่องนี้ทางอธิบดีกรมธนารักษ์ได้พูดชัดเจนไปแล้ว ว่าพื้นที่ดังกล่าวนอกจากศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้แล้วยังมีชาวบ้านใช้พื้นที่ปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งยังไม่ได้มีการยื่นเรื่องเพื่อขอเช่าพื้นที่อีกหลายราย

ดังนั้นเราต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านมายื่นเช่าตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะหากเราแจ้งความดำเนินคดีกับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้แล้วก็ต้องดำเนินการกับชาวบ้านด้วย เนื่องจากไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้

"เราก็เห็นใจชาวบ้าน หากมียื่นเช่าตามกฎหมายแล้วก็จะได้รับการคุ้มครองดูแลจากรัฐบาล หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เช่นภัยพิบัติต่างๆ อย่างไรก็ตามในพื้นที่อ.สวนผึ้ง เนื้อที่ประมาณ 500,000 ไร่ ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุโดยมีการแบ่งพื้นที่ดูแลระหว่างกรมการทหารช่าง และกองพลพัฒนาที่ 1 ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เขา และมีพื้นที่ราบเพียง 50,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แบ่งเป็นพื้นที่ฝึกทางทหาร และที่ตั้งของโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกส่วนหนึ่งกรมธนารักษ์ได้แบ่งพื้นที่ให้ชาวบ้าน และหน่วยงานอื่นๆได้เช่า"