เปิดใจ ร.ต.อ.หญิง สาเหตุติดป้าย "ประกาศขายไต" ลงโซเชียล

เปิดใจ ร.ต.อ.หญิง สาเหตุติดป้าย "ประกาศขายไต" ลงโซเชียล กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโลกโซเชียลและมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางนั้น

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโลกโซเชียลหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งซึ่งเป็นอดีตตำรวจยศใหญ่ ร้อยตำรวจเอกหญิง โพสต์ภาพป้ายไวนิลติดประกาศขายไต พร้อมบอกว่าหลังจากที่เธอเกษียณมาได้ 16 เดือน กลับไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว และตอนนี้ใกล้อดตายแล้ว นั้น

 

 

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ร้อยตำรวจเอกหญิง ประกาศขายไต โดยเดินทางไปที่ หมู่ 2 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบกับ ร.ต.อ.ชุติกาญจน์ คุ้มภัย หรือ ผู้กองแอ๋ว อายุ 63 ปี อดีตรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี

 

จากการพูดคุย ผู้กองแอ๋ว เล่าว่า ตนเองรับราชการมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2522 สังกัดกองกำกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) จ.กาญจนบุรี โดยรับราชการอยู่ที่นี่มากว่า 20 ปี จากนั้น จึงได้ย้ายสังกัดมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญนนบุรี จนถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2555 รวม 33 ปี ก่อนลาออกชั่วคราวเพื่อมาลงเล่นการเมืองท้องถิ่นเป็นเวลาประมาณ 3-4 เดือน หลังจากจบการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในเดือน พ.ย.ปีเดียวกัน

 

หลังกลับเข้ารับราชการต่ออีก 8 ปี ถึง ก.ย.2563 แต่เจ้าหน้าที่กำลังพลได้แจ้งให้ทราบก่อนลาออก 1 เดือนว่าตนเองเป็นสมาชิก กบข. ซึ่งความจริงแล้วตนเองไม่ได้สมัครสมาชิกไว้ตั้งแต่แรกและไม่มีการส่งเงินสะสมกับทางกบข. แต่ทาง กบข.ได้อ้าง พ.ร.บ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ฉบับใหม่ ให้บังคับผู้ที่เข้าเป็นข้าราชการต้องเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการโดยอัตโนมัติ

 

ผู้กองแอ๋ว เล่าต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือทาง กบข.ต้องจ่ายเงินก้อนให้กับตนเองในวันเกษียณราชการเป็นเงินบำเหน็จจำนวน 250,000 บาท และจ่ายเงินบำนาญเดือนละ 45,600 บาท แต่ทาง กบข.ได้ข้อเรียกเงินชดเชยที่ตนไม่ได้ส่งเงินเข้ากองทุนเป็นระยะเวลา 8 ปี เป็นจำนวนเงิน 90,000 บาท และหักเงินบำนาญออกอีกเดือน 2 หมื่นกว่าบาท

 

 

ซึ่งตนเองไม่ขอยอมรับเงื่อนไขของ กบข. เพราะว่าตนเองนั้นไม่เคยสมัครเข้ากองทุนนี้เลย โดย กบข.อ้างว่าเป็นการสมัครเข้ากองทุนโดยอัตโนมัติหลังจากการเข้ารับราชการรอบที่ 2 แต่ตนเองได้รับราชการมาต่อเนื่องและไม่ได้บรรจุราชการใหม่

 

ตอนนี้ตนเองลำบากมาก ถูกตัดสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล เงินบำนาญ เงินบำเหน็จต่างๆ ตอนนี้ไม่รายได้เข้ามาเลี้ยงชีพตั้งแต่เกษียณ ส่วนเงินเก็บที่มีประมาณ 200,000 - 300,000 บาท ก็ควักออกมาใช้จนหมดแล้วจนตอนนี้แทบไม่มีเงินประทังชีวิต ต้องอาศัยยืมเงินเพื่อนๆกิน

 

เปิดกิจการร้านส้มตำที่ทำก็ขาดทุนจากการระบาดของโควิด-19 บ้านที่อยู่ก็กำลังจะโดนตัดน้ำตัดไฟ ตนเองจึงต้องจำใจมาและกาศขายอวัยวะเพื่อต่อชีวิต และไม่คิดว่าชีวิตที่รับใช้ชาติมาทั้งชีวิตต้องมาขายอวัยวะตัวเองเช่นนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์และเงินค่าบำเหน็จต่างๆ ผู้กองแอ๋วได้ยื่นฟ้องร้องคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการที่ 1 รวมกับพวก 4 คนและกรมบัญชีกลางไว้ที่ศาลปกครองสูงสุดแล้ว โดยคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี