ศปภ.เขต 2 ระดมดับไฟไหม้ใบอ้อย คาด 3 วันดับไฟได้

ศปภ.เขต 2 ระดมอุปกรณ์ดับเพลิงช่วยดับไฟไหม้ใบอ้อยม้วน โรงงานน้ำตาลชื่อดัง ควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว คาด 3 วันดับไฟได้

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 65 จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้กองใบอ้อยอัดม้วน ในพื้นที่ หมู่ 10 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ใกล้กับโรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้าง ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้กองใบอ้อยอัดม้วนจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็ว จึงได้เร่งประสานระดมรถดับเพลิงจาก อบต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เข้าควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายเป็นวงกว้าง

ล่าสุด นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้างในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์ไฟไหม้ใบอ้อยม้วน ของโรงงานน้ำตาลมิตรผล ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางดับไฟที่กำลังปะทุขึ้นมาให้เร็วที่สุด ขณะนี้ได้ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่ามีพื้นที่เก็บใบอ้อยม้วนมีเนื้อที่ทั้งหมด 65 ไร่ มีใบอ้อยจำนวนทั้งหมด 37,000 ตัน ซึ่งพื้นที่ถูกไฟไหม้เสียหายมีจำนวน 28 ไร่ กองใบอ้อยม้วนถูกไฟไหม้ 18,000 ตัน

นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเพลิงไหม้กองใบอ้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานทั้งหน่วยงานดับเพลิงในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 2 เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดสุพรรณบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนรถดับเพลิงเข้ามาช่วยฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ใบอ้อย ทำให้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว โดยในพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นโรงงานใกล้เคียงไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดได้แล้ว และไม่ให้เกิดเพลิงลุกลามออกมา ขณะที่โรงงานบริเวณใกล้เคียงได้เตรียมการนำรถน้ำและรถดับเพลิงของหน่วยงานในพื้นที่และของโรงงาน เตรียมพร้อมป้องกันเฝ้าระวังอย่างเต็มพิกัด ส่วนสถานการณ์กลุ่มหมอกควันในพื้นที่หน้าโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงบ้านเรือนชาวบ้าน ยังไม่ได้รับรายงานว่าได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟไหม้ครั้งนี้แต่อย่างใด

ด้าน นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี กล่าว ได้นำอุปกรณ์ดับเพลิงทั้งรถน้ำดับ รถกระเช้า ทุ่นลอยน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกลเพื่อสูบน้ำเข้ามาเติมในสระใกล้กับจุดที่เกิดเพลิงไหม้เพื่อให้รถดับเพลิงได้สูบน้ำไปฉีดสกัดเพลิงได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งฉีดหล่อเลี้ยงกองใบอ้อยที่เหลือ เนื่องจากบางช่วงมีลมแรง อาจมีพายุลมแรงพัดกระโชก ส่งผลให้มีฝุ่นฟุ้งกระจายหรือสะเก็ดไฟปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วไปตกใส่บ้านเรือนประชาชน อย่างไรก็ตามต้องประเมินสภาพอากาศทิศทางลมด้วย หากไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่าภายใน 3 วันน่าจะดับไฟได้แต่อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่มาตั้งสถานีตั้งวัดค่าคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ จำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ และบริเวณแหล่งชุมชนใกล้เคียงโรงงาน เพื่อติดตามค่าอากาศ จากการตรวจวัดค่าอากาศเบื้องต้นพบว่ามีเพียงพื้นที่ใกล้เคียงจุดไฟไหม้เท่านั้นที่มีฝุ่นละอองเกินมาตรฐานส่วนพื้นที่ชุมชนโดยรอบรัศมีจาก 500 เมตรจนถึง 5 กิโลเมตรยังปกติ

ล่าสุดทางโรงงานน้ำตาลมิตรผล อ.ด่านช้าง ได้ส่งเอกสารชี้แจง ฉบับที่ 2 ในวันนี้ เวลา 09.00น.ว่าได้มีการจัดตั้งกองอำนวยการดับไฟกองใบอ้อย โดยมีนายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง เป็นหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารถภัยจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานราชการในท้องถิ่น และโรงานฯ เพื่อควบคุมเหตุเพลิงไหม้อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยจะมีเครื่องสูบน้ำระยะไกลเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานอีกจำนวน 2 เครื่อง ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วันในการดับเพลิงได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ของโรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้าง ได้ลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์ในชุมชนรอบโรงงานเพื่อสื่อสารข้อมูล ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดทั้งนี้ กองใบอ้อยที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เป็นเชื้อเพลิงเสริมเพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลโดยโรงไฟฟ้าฯ ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อนึ่ง โรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้าง ได้มีการจัดเตรียมแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจแผนการรับมือเหตุฉุกเฉิน แผนการผลิต และจัดเตรียมสต๊อกสินค้าไว้ให้เพียงพอต่อการส่งมอบในสถานการณ์นี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อพันธมิตรทางการค้าทุกท่านหากมีความคืบหน้าของเหตุการณ์ โรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้างจะเรียนแจ้งเพื่อทราบต่อไปฝ่ายบริหาร