"สปสช." อนุมัติจัดซื้อ "รากฟันเทียม" 7,000 ชุด สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก

"สปสช." อนุมัติจัดซื้อ "รากฟันเทียม" 7,000 ชุด สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก

"สปสช." อนุมัติจัดซื้อ "รากฟันเทียม" สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก จำนวน 7,000 ชุด จริงหรือไม่? เช็คที่นี่มีคำตอบ

ตามที่มีการกล่าวถึงประเด็นเรื่อง "สปสช." จัดซื้อ "รากฟันเทียม" 7,000 ชุด สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้เพิ่มเติมการจัดหารายการ "รากฟันเทียม" เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565 

ที่มาของโครงการดังกล่าว เกิดจากคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข มีมติเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 มอบหมายให้ "สปสช." ดำเนินการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการให้บริการผ่าตัดใส่ "รากฟันเทียม" อย่างครบวงจร รวมทั้งดำเนินการโครงการนําร่องการใช้ผลิตภัณฑ์ "รากฟันเทียม" ในบัญชีนวัตกรรมไทยโดยมุ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ในบัญชีนวัตกรรมไทยให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

"สปสช." อนุมัติจัดซื้อ "รากฟันเทียม" 7,000 ชุด สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

โดยสามารถพิจารณารูปแบบการจัดซื้อ "รากฟันเทียม" ที่เหมาะสมกับหน่วยบริการที่ให้บริการในประเทศไทย ใน 2 รูปแบบ คือ

  1. จัดซื้อ "รากฟันเทียม" โดยหน่วยงานส่วนกลาง (central procurement) และสนับสนุนรากฟันเทียมให้หน่วยบริการนําไปดำเนินการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมให้กับผู้ป่วย
  2. ทำการเจรจาต่อรองราคา "รากฟันเทียม" แบบรวมศูนย์ (central bargaining) กำหนดคุณสมบัติของรากฟันเทียมและกรอบอัตราเบิกจ่ายที่เหมาะสมเพื่อให้หน่วยบริการดำเนินการจัดซื้อรากฟันเทียมด้วยตนเอง

เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7,000 ชุด วงเงินจำนวนไม่เกิน 21ล้านบาท โดยคํานวณจากจำนวนกลุ่มเป้าหมาย 5,513 คน ใช้ 2 ชุด/คน คิดเป็น 11,026 ชุด แต่ปรับลดเหลือ 6 เดือน

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.nhso.go.th/ หรือโทรสายด่วน 1330