แม่ไม่ให้อภัย100% รับน้องโหดดับ รองอธิการฯเผยมีแก๊งรุ่นพี่ 28 คน

อัปเดต รับน้องโหดเสียชีวิต แม่ยันไม่ให้อภัย 100% พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านรองอธิการฯเผยมีแก๊งรุ่นพี่ 28 คน

กรณีชาวโซเชียล มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้องโหดจนเสียชีวิต ของรุ่นพี่  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ทราบรายชื่อภายหลัง คือ น้องเปรม นายพัสยศ ชลภักดี อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แผนกช่างกลโรงงาน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันอังคารที่ 15 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางนิตยา ชลภักดี อายุ 41 ปี มารดาของน้องเปรม เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้ง ว่าลูกชายจะให้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนจึงตกใจและรีบเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาดูหน้าน้องเปรมลูกชายคนโตที่เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย 

หลังจากการสอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เปิดเผยกับตนว่า ทั้งรุ่นพี่ได้มีการเรียกรุ่นน้อง มารับน้องกลางดึกของวันอาทิตย์ โดยใช้พื้นที่คันนา ในเขตของตำบลมะเริง โดยมีการให้รุ่นน้องกลิ้งไปกับพื้นดิน พร้อมให้ดื่มสุรา ก่อนที่จะมีการต่อยที่บริเวณลิ้นปี่ จึงทำให้น้องล้มลงไปหมดสติหามส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนยังทำใจไม่ได้ เคยดูแต่ข่าวในทีวีแต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเป็นคนในครอบครัว และแม่ไม่ขอให้อภัยรุ่นพี่ทั้งหมด 100% และพร้อมที่จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับทุกคน 

และขอให้คิดของลูกชายของตนเองเป็นเคสสุดท้ายและไม่อยากให้มีการรับน้องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก อีกทั้งเมื่อวานนี้ครอบครัวพร้อมกับรุ่นน้องและรุ่นพี่ ได้ไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อบอกกล่าวกับดวงวิญญาณของน้องเปรม ให้กลับบ้านมาตามพ่อตามแม่ พร้อมทั้งมีการจุดธูปเทียน นำข้าวผัดและน้ำเปล่าเอามาให้น้องกิน เพราะกลัวว่าน้องจะหิว ส่วนศพน้องนั้นกำลังทำเรื่องกับโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อจะรับตัวไปให้โรงพยาบาลตำรวจ กทม. หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบถามทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ที่มีการลักลอบแอบไปรับน้องกันนอกสถานที่ของมหาวิทยาลัย พบว่ารุ่นพี่ไปทั้งหมดจำนวน 28 คน รุ่นน้องจำนวน 37 คน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดแล้วได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าในที่เกิดเหตุได้มีการให้รุ่นน้องดื่มสุรา และมีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลของการเสียชีวิต แต่ต้องรอการชันสูตรศพที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง 

รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยบทลงโทษของกลุ่มรุ่นพี่จะปีที่ 2 นั้น จะมีทั้งหมดตั้งแต่พักการเรียน ให้ออก และไล่ออก จึงอยากฝากเดิมนักศึกษารุ่นพี่ทุกคณะ ห้ามทำการรับน้องแบบนี้เด็ดขาด เพราะทางมหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายในการรับน้อง ทั้งนี้ในส่วนการสอบสวนของตำรวจต้องให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อน เนื่องจากนักศึกษาที่เสียชีวิตได้ติดเชื้อโควิด 19 และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป