เอกชนขานรับมาเลย์เปิดด่าน 1 เม.ย. เสนอรัฐใช้วัคซีนทราเวลเลน

เอกชนสงขลาขานรับมาเลเซียเปิดด่าน 1 เม.ย เล็งเสนอรัฐบาลใช้มาตรการวัคซีนทราเวลเลน ดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้าไทยกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองหน้าด่านชายแดนฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 ทันทีที่ดาโต๊ะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศเปิดพรมแดนของประเทศอีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน หลังจากปิดไปเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ข่าวนี้สร้างความหวังให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดสงขลาอีกครั้ง

ล่าสุด ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก อ.สะเดา และในฐานะผู้ประกอบการโรงแรมอำเภอสะเดา จ.สงขลา เปิดเผยว่า แม้จะมีความชัดเจนจากฝั่งมาเลเซียในการเปิดด่านไทย –มาเลเซียวันที่ 1 เม.ย.นี้ ในขณะด่านพรมแดนฝั่งไทยที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ได้เปิดด่านมาตั้งแต่วันที่ 1มี.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้มาตรการเทสต์แอนด์โก ซึ่งเบื้องต้นที่มีเพียงคนไทยที่แจ้งความประสงค์เดินทางเข้ามา

ดังนั้นการประกาศเปิดประเทศมาเลเซียที่จะเริ่ม 1 เม.ย.นี้มั่นใจว่าจะทำให้บรรยากาศการกระตุ้นเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งในช่วงเวลาที่เหลือประมาณ 40 วันนับจากนี้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการในพื้นที่จะได้หารือมาตรการต่างๆเพื่อให้สอดรับกัน โดยเฉพาะเงื่อนไขหรือมาตรการป้องกันโรคเพราะสาเหตุที่มาเลเซียเปิดประเทศได้เนื่องจากได้ผ่อนคลายให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ขณะที่มาตรการฝั่งไทยยังคงใช้ระบบเทสต์แอนด์โกจึงไม่สอดรับกันซึ่งประเด็นนี้น่าจะเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องสรุปให้ชัดเจน

ดร.สิทธิพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า เอกชนมองเห็นโอกาสทีมาเลเซียเปิดประเทศเพราะนี่คือนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก ที่จะกระตุ้นบรรยากาศความเงียบเหงาตลอด2 ปีให้พลิกฟื้นกลับมาคึกคักได้ ในมุมมองของผู้ประกอบการพร้อมเต็มที่ เช่น โรงแรมสงขลาที่ได้มาตรการผ่าน “SHA” และ “SHA Plus” มีมากกว่า 30 แห่ง เฉพาะที่บริเวณหน้าด่านสะเดา หรือที่ด่านนอกมีโรงแรมถึง 5 แห่งที่ผ่านเกณฑ์ แต่ภาครัฐต้องชัดเจนเงื่อนไขเข้าประเทศเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคและจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เช่น ปรับการเดินทางเข้า-ออกด่านพรมแดนไทย-มาเลเซียให้เป้นรูปแบบ "วัคซีนทราเวลเลน "ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันที่มาลเซียใช้กับสิงคโปร์ด้วย

นอกจากนี้สิ่งที่อยากเรียกร้องรัฐบาลและภาครัฐในคราวเดียวกัน คือ การผ่อนปรนภาษีที่ดินจากเดิมที่เคยจ่าย10% แต่วันนี้เพิ่มเป็น 100% ซึ่งเท่ากับรัฐไม่ได้ช่วยอะไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นคืน ดังนั้นรัฐควรทบทวนเรื่องภาษีที่ดินเพื่อให้เอกชนเดินหน้ากระตุ้นบรรยากาศเต็มที่