อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

ความเคลื่อนไหว อัปเดต คดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำทำได้ ตรวจสอบความสัมพันธ์ และเช็คเหตุการณ์เอี่ยว 5 คนบนเรือ

ตรวจสอบความเคลื่อนไหว อัปเดต คดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ สอบสัมพันธ์เช็คเหตุการณ์ 5 คนบนเรือ โดยการเสียชีวิตของของดาราสาว แตงโม นิดา หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ อายุ 37 ปี ยังคงมีความเคลื่อนไหวจากหลายด้านโดยเฉพาะการเปิดเผยหลักฐานจากนักสืบไซเบอร์
ล่าสุดวันนี้ (7 มี.ค. 2565) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์​ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1​ (ผบช.ภ.1) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม​ นิดา​" ได้มีการสอบพยานไปแล้ว 65 ปาก​ และในวันนี้​ช่วงบ่ายจะมีพยานแวดล้อมมาให้การอีก​ 3​ ปาก​ เพื่อให้คดีมีความกระจ่าง หนึ่งในนั้นคือนายสันธนะ ประยูรรัตน์​

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

และยืนยันว่า​ คำให้การของพยานปากเอกทั้ง 4 "กระติก - ปอ - จ๊อบ - โรเบิร์ต" ยังไม่กลับคำให้การ เพียงแต่เค้นข้อมูลเพิ่มเติมในบางประเด็นเพื่อนำมาประกอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีประโยชน์​กับการเดินหน้าทางคดี​ และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับบุคคล​ใดเพิ่มเติม​  

ทั้งนี้ มีการแต่งตั้งโฆษก เพื่อชี้แจงคดีไม่ให้สังคมสับสนนัดแถลงในช่วงเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ โดยทีมงานโฆษกที่รับผิดชอบคดีฯ

ยื่นผ่าศพ "แตงโมนิดา ซ้ำทำได้

คดี “แตงโม” ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าทนายความของ แม่แตงโมได้เตรียมยื่นเรื่องขอผ่าชันสูตรศพใหม่อีกครั้ง โดยจะมีการยื่นเรื่องผ่านทางพนักงานสอบสวน 

โดยเรื่องนี้ทางด้าน นายแพทย์​ สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ แพทย์ชันสูตรศพชื่อดัง จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์  ระบุว่า สำหรับการยื่นเรื่องขอผ่าชันสูตรศพใหม่อีกครั้งนั้น การยื่นผ่าศพใหม่สามารถทำได้ โดยยื่นเรื่องผ่านพนักงานสอบสวน เพื่อให้ส่งเอกสารขอผ่าศพซ้ำ ส่วนจะให้ใครผ่า ใครจะเป็นเจ้าภาพ อยู่ที่การประสานงาน โดยจะเชิญ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตหมอผ่าศพระดับประเทศ มาร่วมด้วยก็ได้ แต่น่าจะเป็นในฐานะคณะกรรมการสังเกตการณ์

การผ่าศพซ้ำมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือ อาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม เจออะไรบางอย่างที่การผ่าครั้งที่ 1 ทำไม่ได้ หรือยังไม่เจอ โดยสิ่งที่เจอเป็นการผ่าลึกลงไปจากที่เคยผ่า จากใบมีดครั้งแรกที่ไปไม่ถึง ข้อเสีย คือ ข้อมูลที่ได้อาจจะลดลง เพราะสภาพศพเปลี่ยนแปลงตามธรมชาติ บางอย่างที่เคยเห็น ผ่าซ้ำอาจจะไม่เห็นแล้ว ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน

นายแพทย์สุรณรงค์ ยังยกตัวอย่าง คดีห้างทอง ซึ่งหมายถึง นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ ที่ยิงตัวตายปริศนา มีการผ่าชันสูตรถึง 3 รอบ รอบแรกผ่าที่นิติเวชตำรวจ สรุปว่าฆ่าตัวตายเอง ต่อมามีการร้องเรียน ก็ผ่าใหม่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และครั้งที่ 3 เป็นการผ่าตามคำสั่งศาล มีการตั้งคณะกรรมการชึ้นมาผ่าชันสูตรรอบสุดท้าย

ส่วนการตรวจสอบหลักฐานที่ได้จากการงมสิ่งของบางอย่างขึ้นจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคาดว่าเป็นของที่ทิ้งจากเรือสปีดโบท ที่แตงโมโดยสารมาด้วยแล้วเสียชีวิตนั้น นายแพทย์​ สุรณรงค์ บอกว่า ตอบไม่ได้ว่าการงมสิ่งของขึ้นมา โดยเฉพาะแก้ว จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากน้อยแค่ไหน แต่ควรจะลองดู

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

หลักการคือ สภาพแวดล้อมใต้น้ำสามารถทำลายวัตถุพยานได้ เช่น รอยนิ้วมือ เป็นคราบไขมันของมือ หรือปลายนิ้ว จะติดอยู่บนพื้นผิวสัมผัส ถ้าวัตถุนั้นผิวเรียบ แห้ง คราบหรือรอยนิ้วมือก็จะคงทน ติดอยู่นาน แต่เมื่อวัตถุโดนน้ำ โดนตะกอนดิน โอกาสถูกทำลายก็สูง สารเสพติดก็เช่นกัน แต่การค้นหาและนำมาตรวจหาหลักฐานย่อมดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่คำถามแรกที่ต้องตอบให้ได้ก็คือ เป็นสิ่งของจากคดีแตงโมหรือไม่ เพราะในแม่น้ำมีขยะเยอะ

ส่วนประเด็นที่สังคมกังขาว่าเหตุใด ศพของแตงโมซึ่งที่เกิดเหตุอยู่ในเขต จ.นนทบุรี จึงไม่ถูกส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ตามข้อตกลง ประเด็นนี้ แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ให้ข้อมูลว่า การแบ่งพื้นที่กันชันสูตรศพ โดยศพที่พบในพื้นที่นนทบุรี เป็นความรับผิดชอบของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯนั้น เป็นระบบที่มีตั้งแต่ปี 46 แต่ข้อตกลงนี้ไม่ใช่ข้อบังคับ

ข้อมูลที่น่าสนใจคือ แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ที่ไปยังที่เกิดเหตุ จุดที่แตงโมตกเรือ เป็นหมอจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อพบศพแล้ว นำศพขึ้นรถ ปรากฏว่ารถก็กำลังวิ่งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ แต่แล้วรถวกกลับไปที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะมีคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ส่งศพไปที่นิติเวชตำรวจ เคสแบบนี้ในวงการเรียกว่า เคส extra สามารถทำได้ ไม่ได้ผิดอะไร อาจจะเป็นเคสที่เชื่อว่าโรงพยาบาลตำรวจผ่าได้เร็วกว่า หรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงอยากติดตามผลอย่างใกล้ชิด ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง
 

ชุดสืบสวนสอบไล่เรียงความสัมพันธ์และเหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

แกะรอยความสัมพันธ์เชื่อมโยงกลุ่มเพื่อนแตงโม ก่อนนัดปาร์ตี้ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมไล่ไทม์ไลน์คืนวันเกิดเหตุ พบหลังเกิดเหตุนัดรวมตัววางแผนทางคดีกับทนายฯ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก่อนแยกย้ายหลังได้คำแนะนำให้กลับไปพักผ่อนก่อน เพื่อลดปริมาณแอลกฮอล์ในร่างกาย ตร.เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม“ปอ-โรเบิร์ต”

ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บชน. ร่วมทำคดีกับทางตำรวจสืบสวนภาค 1 เพื่อคลี่คลายคดี “แตงโม” น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวพลัดตกเรือสปีดโบ๊ท แม่น้ำเจ้าพระยา

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้มีการเชิญตัวกลุ่มเพื่อนของแตงโม มาทำการสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา

จากการสอบสวนของชุดสืบสวน ทำให้สามารถไล่เรียงความสัมพันธ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุได้โดย เริ่มจาก “กระติก” กับ “ปอ” ก่อนหน้านี้เคยมีความสัมพันธ์คบหากันตั้งแต่สมัยอายุ 18-20 ปี โดยมีการคบหากันได้เพียง 6 เดือนก่อนที่จะห่างหายกันไป จนกระทั่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพบเจอกันบ่อยขึ้น ทำให้ทั้งคู่ได้มีการแลกไลน์เพื่อพูดคุยกันอีกครั้ง

ในขณะที่ “แซน” นั้น เป็นเพื่อนกับ “แตงโม” มานานตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยทั้งคู่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากสำหรับ “โรเบิร์ต” เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่มีความสนใจจะเข้าร่วมลงทุนกับทาง “ปอ” โดยมี “จ็อบ” เป็นลูกน้องของปอ

สำหรับในวันเกิดเหตุ จากการสอบสวนของชุดสืบสวนพบว่า ก่อนวันเกิดเหตุ เริ่มต้นจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ “ปอ” ได้มีการทักแชทพูดคุยกับทาง “กระติก” เพื่อที่จะนัดเจอในกันบรรดากลุ่มเพื่อนเก่า โดยมีการนัดหมาย ระบุชื่อ โหน่ง/กระติก/แข การนัดหมายครั้งนี้เป็นนัดสังสรรค์กันในกลุ่มเพื่อนเท่านั้น

ในวันเกิดเหตุ ได้มีการขึ้นเรือกันที่ท่าเรือ NBC ก่อนที่จะมีการล่องเรือไปเรื่อยๆตามเส้นทางสะพานพระราม 8 ผ่านสะพานพระราม 7 โดยอีกเพียง 5 นาทีจะถึงฝั่ง ได้ปรากฎภาพวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่า กระติกอยู่ที่บริเวณหัวเรือด้านซ้าย โดยมีปออยู่ที่ด้านหน้าหัวเรือ ด้านขวา ระหว่างนั้นทางด้านแตงโม ได้มีการถามหาโทรศัพท์ พร้อมกับว่า “ปวดฉี่” ทางด้านกระติกได้ย้อนถามว่า “ทำไมเมื่อกี้ไม่ฉี่” จากนั้นไม่มีใครสนใจอะไร ก่อนที่แตงโมจะเดินไปทางท้ายเรือ

ระหว่างที่แตงโมเดินทางไปท้ายเรือ ขณะนั้นพบว่า โรเบิร์ตเป็นคนขับเรือ มองอยู่ทางด้านหน้า ส่วนจ็อบยืนในลักษณะหันข้าง แต่ได้สังเกตุเห็นแตงโมเดินผ่านไปข้างหลังเรือ จากนั้นแตงโมได้ใช้นิ้วชี้พร้อมกับทำปาก “ฉู่” เพื่อบอกกับทางแซน แต่ทางแซนไม่สนใจ เพราะตอนนั้นเล่นโทรศัพท์ จากนั้นได้ปล่อยให้แตงโม นั่งจับขาทำธุระ จังหวะที่แตงโมลุกขึ้น ปรากฎว่าเรือเกิดอาการกระตุก ทำให้แตงโมต้องปล่อยมือจากแซน จังหวะนี้เองทำให้แตงโมต้องหันไปหาที่เกาะทางด้านซ้ายของเรือ แต่คว้าไม่ทันทำให้แตงโมพลิกตัวตกน้ำลงไปทันที

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ

ทันทีที่แตงโมตกลงไปในน้ำ ทำให้แซนซึ่งอยู่ในอาการตกใจ ได้ตะโกนร้องว่า “แตงโมงตกเรือๆ” ซึ่งไทม์ไลน์ระบุเวลา 22.34 น. จากนั้นปอได้วิ่งไปประคองเรือหักหัวเรือกลับไปหา โดยวนหาอยู่ประมาณ 18 รอบ อยู่บริเวณกึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวน ทางด้านแซนได้แชทไลน์ไปหาเพื่อนบอก“แตงโมตกน้ำ” ขณะที่ปอโทรศัพท์ไปหาคนที่อู่จอดเรือ เพื่อให้ออกมาช่วยกันตามหาแตงโม

ถัดไปอีกประมาณ 16 นาที กระติกได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนอีกหลายๆคน พร้อมกับแชทไลน์บอกเพื่อนไปอีกทางหนึ่งด้วย โดยพยานแวดล้อมมีทั้งหมด 10 กว่าคน โดยทั้งหมดใช้เวลาในการวนหาเรืออยู่สักพักใหญ่ จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทั้งหมดคิดว่าไม่น่าจะหาเจอแตงโม จึงได้ตัดสินใจกลับมาที่อู่ NBC

ระหว่างนั้นทางด้านกระติก เกิดปวดท้องจึงขอแวะเข้าห้องน้ำชาวบ้านในละแวกนั้น พร้อมกับทางโรเบิร์ต เมื่อเสร็จธุระได้ย้อนกลับมาที่ท่าน้ำอีกครั้ง แต่ปรากฎว่ามีบรรดานักข่าว และกู้ภัย เจ้าหน้าที่อาสาอยู่จำนวนมาก จึงตัดสินใจหนีไปตั้งหลักก่อน ในระหว่างที่ทั้ง ปอและจ็อบ ยังคงขับเรือวนหาแตงโม อยู่จนกระทั่งประมาณตี 1 ทั้งคู่คิดว่าหาไม่เจอแล้ว จึงนำเรือมาเทียบเข้าฝั่งระหว่างทางที่กำลังนำเรือเข้าเทียบฝั่ง ได้มีการทิ้งหลักฐาน เป็นขวดเหล้า ขวดไวน์ ขวดแชมเปญ และแก้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นขยะในเรือทิ้งลงแม่น้ำ

จากนั้นได้มีการโทรหาเพื่อนที่เป็นทนายความ และทั้งหมดได้มีการนัดหมายกันไปคุยที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนของปอที่เป็นทนายความได้เดินทางมาด้วย แต่ได้พูดคุยกันไม่นาน ทนายได้แนะนำว่าให้รอรุ่งขึ้นอีกวันก่อนให้มาคุยกันให้ ให้กลับไปพักผ่อนก่อน ซึ่งการพักผ่อนจะมีผลทำให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลง ซึ่งมีผลทางคดีอาญา

กระทั่งเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ทางด้านโรเบิร์ตได้โทรไปหาทนายชื่อดังคนหนึ่ง เพื่อให้ช่วยเหลือทางคดี และได้นัดหมายให้มาพูดคุยกันก่อนที่จะเข้าพบตำรวจ โดยทั้งหมด ยกเว้น “แซน” ได้มาพูดคุยปรึกษากับทนายคนดังกล่าว โดยทนายคนนี้ได้ให้คำแนะนำว่า ให้ปอเป็นคนสารภาพและให้มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับทางแม่ของแตงโม แต่ปรากฎว่าทางปอ ไม่พอใจพร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ จากนั้นทนายคนดังกล่าวได้แนะแนวทางอีกทางหนึ่ง แต่ทางกลุ่มเพื่อนไม่พอใจไม่เห็นด้วย ทำให้ทนายคนดังกล่าวไม่พอใจ

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนยังระบุอีกว่า จากภาพกล้องวงจรปิดมีเพียงจุดเดียวเท่านั้นที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลบนเรือแต่ละคนอยู่ในจุดไหนบ้าง ซึ่งจากการสอบสวนกลุ่มเพื่อนทั้งหมด ปรากฎว่าสามารถยืนยันตัวตนของตัวเองได้ทั้งหมดตรงตามภาพ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งข้อหากับทางปอและโรเบิร์ตเพิ่มเติม

อัปเดตคดี "แตงโมนิดา" ล่าสุด ปมผ่าศพซ้ำ ตรวจสอบสัมพันธ์-เหตุการณ์ 5 คนบนเรือ
 

พนง.ปั๊มน้ำมันพระราม 5 ยันกลุ่มเพื่อนแตงโมขับรถเข้ามาจริง 

พนักงานปั๊มน้ำมันย่านพระราม 5 ยันกลุ่มเพื่อนแตงโม 4 คน ขาดแต่เพียง “กระติก” ทยอยกันขับรถเข้ามาภายในปั๊มกลางดึกหลังเกิดเหตุแตงโมตกน้ำจริง  แต่ไม่ได้เติมน้ำมัน   ทั้งหมดจอดคุยกันสักพักก่อนเดินทางกลับ เผยลักษณะเหมือนลูกค้าทั่วไป

 ภายหลังที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ว่าหลังจากที่ดาราสาวพลัดตกน้ำภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฎว่ามีภาพวงจรปิดของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง  มีภาพชัดเจนว่า ทางกลุ่มเพื่อนแตงโมได้เดินทางออกจากท่าเรือพิบูลสงคราม แล้วมีการนัดเจอที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านพระราม 5 นั้น

ล่าสุดทีมข่าวได้ไปตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว ย่านพระราม 5  ซึ่งอยู่ห่างจาก NBC BOAT CLUB ประมาณ5.5 กิโลเมตร โดยภาพจากวงจรปิด ระบุเวลาประมาณ 02.05น. รถตู้สีขาว และสีดำจำนวน 2 คันเข้ามาจอดในพื้นที่  จอดบริเวณห้องน้ำของทางปั๊ม โดยมีนายโรเบิร์ต และปอ เดินลงมาจากรถก่อน 

จากนั้นได้มีรถยนต์ของนายจ๊อบเข้ามาจอดเทียบข้างรถตู้สีดำ จากนั้นนายจ๊อบ ก็เดินลงมาพูดคุย ในลักษณะแยกย้ายกันคุยโทรศัพท์ จนกระทั่งเวลา 02.27 น. รถตู้สีขาวอีกคันได้เดินทางเข้ามาสมทบ โดยมีแซน เดินลงมาจากรถคันดังกล่าว มีการยืนพูดคุยกันสักระยะ ก่อนที่จะแยกย้ายกันในเวลา 02.36 น.

สอบถามพนักงานปั๊มน้ำมันดังกล่าว แจ้งว่าไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวได้เนื่องจากเป็นนโยบายของบริษัทฯ และให้ข้อมูลเพียงสั้นๆว่า ในคืนวันเกิดเหตุมีพนักงานเข้าเวรอยู่2คน ซึ่งในช่วงเกิดเหตุก็มีกลุ่มรถดังกล่าวเดินทางเข้ามาในปั๊มจริงๆ แต่ไม่ได้เติมน้ำมัน เมื่อมาถึงก็จอดพูดคุยกันสักพักก่อนจะเดินทางออกไป โดยไม่รู้ว่าเป็นรถของเพื่อนแตงโม เพราะลักษณะการเข้ามาในพื้นที่ก็เหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่ได้มีพิรุธ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีข่าวการสูญหายของคุณแต่โมออกมาด้วย