ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ปักหมุด 4 อำเภอเฝ้าระวังไฟป่า

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย หลังรับรายงานเกิดลอบเผาจนไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ระดมกำลังกว่า 50 นายเข้าพื้นที่ดับไฟป่า ขณะที่กองทัพภาคที่ 3ส่ง MI-17 ช่วยปฏิบัติการชี้จุด เผยพื้นที่เฝ้าระวัง 4อำเภอ แม่แจ่ม เชียงดาว เมือง และ สันทราย

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่ ต.แม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ โดยมีนายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่

นายประจญ กล่าวว่า  หลังจากที่ได้รับรายงานเกิดไฟป่าในพื้นที่อำเภอสันทรายตั้งแต่เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยคาดว่าเป็นไฟที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปลักลอบจุดไฟเพื่อหาของป่า ทำให้เกิดไฟไหม้เชื้อเพลิงที่มีอยู่ในพื้นที่ป่าและลุกลามเป็นบริเวณกว้าง จึงได้ระดมกำลังจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี ชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็วประจำอำเภอ ชุดอาสาปฏิบัติการดับไฟป่า ประจำตำบล ประจำหมู่บ้าน กำลังพลจาก มทบ.33 บูรณาการร่วมกันประมาณ 50 นาย เข้าทำการสกัดไฟไม่ให้ลุกลามจนทำให้เกิดหมอกควันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ โดยมีพื้นที่ที่ถูกเผาไหม้ประมาณ 50-60 ไร่ โดยมีกองทัพภาคที่ 3 ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 เข้ามาช่วยสนับสนุนบินสำรวจและชี้จุดแนวไฟที่ยังมีอยู่ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภาคพื้นที่

จากแนวคิดการทำงานด้านหมอกควันไฟป่ามาอย่างต่อเนื่อง หมอกควันจะเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่ว่าจะในพื้นที่ป่าหรือในพื้นที่การเกษตร ต้องพยายามสกัดต้นตอที่ทำให้เกิดหมอกควันด้วยการไม่ทำให้เกิดไฟ โดยเฉพาะไฟป่าที่ดับยาก และมักลุกลาม สำหรับในพื้นที่ทางการเกษตรยังสามารถที่จะควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้ และมีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี แต่ในพื้นที่ป่าหากจุดไฟแล้วทิ้งไว้ จะทำให้เกิดการลุกลามและยากต่อการเข้าดับไฟ และต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการเข้าดับไฟป่าในแต่ละครั้ง ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย ที่เกิดขึ้นนี้สามารถควบคุมไฟให้ดับลงได้เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2565

ขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จัดชุดลาดตระเวนไฟป่า เว้นในพื้นที่อำเภอสารภี ที่ไม่มีพื้นที่ป่า แต่ให้จัดชุดเฝ้าระวังการเผาในพื้นที่เกษตรและเผาขยะภายในบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อป้องกันการเกิดหมอกควันไฟป่า พร้อมเน้นย้ำให้ชุดลาดตระเวนไฟป่าของแต่ละอำเภอทำการตรวจสอบพื้นที่อย่างเข้มข้น และต้องทำการตรวจสอบการเข้าไปในป่าของบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันการเข้าไปลักลอบจุดไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสันทรายต้องเพิ่มชุดลาดตระเวนขึ้น และลงพื้นที่คอยสอดส่งดูแลพื้นที่อย่างเข็มแข็ง เนื่องจากเกิดไฟป่าในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ในช่วงนี้จึงขอให้ชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าสลับสับเปลี่ยนกันเข้าไปสอดส่องดูแลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
 

อย่างไรก็ตาม   ขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบงบประมาณ ผ่านทางมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 13 ล้าน เพื่อให้จังหวัดนำมาบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีงบประมาณจากการที่จังหวัดจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาจำนวนประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในส่วนที่ไม่สามารถใช้งบของราชการในการเบิกจ่ายได้ เชื่อว่าจะเพียงพอที่จะใช้ในการบริหารจัดการหมอกควันไฟป่าในปีนี้

สำหรับอำเภอที่ต้องเฝ้าระวังไฟป่าเข้มข้น ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว และ อำเภอเมือง ส่วนอำเภอสันทรายจากเดิมที่ไม่อยู่ในพื้นที่อำเภอที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ขณะนี้ต้องนำเข้ามาเป็นอีก 1 อำเภอที่ต้องเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันทราบว่าในพื้นที่อำเภอสันทราย มีทีมโดรนอาสาของภาคประชาชนเข้ามาช่วยบินสำรวจแนวไฟป่า ทั้งนี้อยากให้เข้ามาช่วยบินสำรวจว่ามีการเคลื่อนไหวของบุคคลที่อาจลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่าด้วย หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ