"วินิจ" แจงศึกแดงเดือด ค่าไลเซนส์ 776 ล้าน ลั่นของบรัฐ 400 ล้าน ไม่ได้ก็จัดต่อ

"วินิจ" แจงศึกแดงเดือด ค่าไลเซนส์ 776 ล้าน ลั่นของบรัฐ 400 ล้าน ไม่ได้ก็จัดต่อ

ฟังอีกด้าน “วินิจ เลิศรัตนชัย” เปิดใจ แจงศึกแดงเดือดในไทย “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ปะทะ “ลิเวอร์พูล” ค่าไลเซนส์ 776 ล้าน ลั่นของบรัฐ 400 ล้าน ถ้าไม่ได้ก็จัดต่อ

จากกระแสดราม่า การจัดการแข่งขันศึกแดงเดือดในไทย “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ปะทะ “ลิเวอร์พูล” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 หลังบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ผู้จัดงาน ออกได้ทำหนังสือมายัง การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอรับการสนับสนุน ส่งเสริมภาพลักษณ์ในการจัดการแข่งขันศึกแดงเดือดในไทย “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” ปะทะ “ลิเวอร์พูล” โดยได้ขอรับการสนับสนุนวงเงินราว 400 ล้านบาท จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ถึงความเหมาะสมถึงการใช้งบประมาณดังกล่าว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดว่าเหมาะสมหรือไม่

ล่าสุด นายวินิจ เลิศรัตนชัย ซีอีโอ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เปิดเผยในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand กล่าวว่า มีการประสานงานไปทางภาครัฐจริง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นเอกสารในการขอสนับสนุน และการโฆษณาในภาวะปกติ ซึ่งการออกได้ หรือไม่ได้นั้นก็ต้องเป็นอีกเรื่องนึง

 

ถ้าสังเกตให้ดี ในเอกสารหลายๆหน้า จะเป็นเรื่องการวิเคราะห์ว่าอีเวนท์แบบนี้จะมีอะไรที่เกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นการวิเคราะห์โดยปกติของแผนงานอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นรายได้ทั้งหมดแต่เป็นตัวเลขมูลค่างานที่จะเกิดขึ้น

ส่วนค่าประมาณการตัวเลขการลงทุน 926 ล้านบาท แบ่งเป็น ไลเซนส์ 776 ล้าน อีเวนท์ 150 ล้าน นั่นเป็นการประเมินตัวเลขจากทั้งสองคลับ เป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้น เพราะความจริงที่ไม่น่าจะใกล้เคียง เพราะอะไรต่างๆที่ออกมาต้องอธิบายตามข้อเท็จจริง

สำหรับเอกสารหน้าที่ 35 แสดงตัวเลข 400 ล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขที่ตั้งขึ้นมาเพื่อที่ช่วยกันคิดจากทางบริษัทเอง แต่เป็นข้อเสนอ เพราะต้องคำนวณว่าเราจะมีรายได้จากการขายบัตรเท่าไหร่ ทางรัฐช่วยเท่าไหร่ ระหว่างทางสปอนเซอร์เท่าไหร่

ที่สำคัญที่สุด ทำอย่างไรให้ฟุตบอลคู่นี้ที่ทั่วโลกจับตามอง จะเกิดประโยชน์มากที่สุด เป็นการสะท้อนบางอย่างเรื่องความเชื่อมั่นของทีมฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” และ “ลิเวอร์พูล” ที่ก่อนจะตัดสินใจมาเมืองไทยทั้งสองทีม มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เกิดขึ้น ว่าทำไมต้องเป็นเมืองไทย สิ่งที่ทั้งสองทีมตอบคือ เพราะเมืองไทย สามารถเป็นศูนย์กลางของเอเชียได้ แฟนฟุตบอลสามารถบินเข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้ สิ่งนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองของเราด้วย

หากว่าภาครัฐไม่สนับสนุน 400 ล้าน ไม่กระทบการจัดงาน ยืนยันว่าจะจัดต่อ แม้ว่าภาครัฐจะไม่ได้ช่วยเป็นเม็ดเงินแต่ช่วยในด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ แค่นี้ก็ครบถ้วนแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวในเอเชียที่เตรียมการจะเข้ามาชมอย่างน้องประมาณ 15,000 คน เพราะมีการสำรองบัตรในระดับเอเชียออกไปแล้ว และจะมีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก คาดว่าไม่ต่อกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

พร้อมยืนยันว่าได้เซ็นต์สัญญากับทาง "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" - "ลิเวอร์พูล" แล้ว

ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมทางด้านการกีฬา และมาตรการเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ และต่างชาติให้เดินทางมาท่องเที่ยว และสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. เป็นการนำกิจกรรมทางานการกีฬาระดับโลกมาช่วยส่งสริมมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการทองเที่ยวในประเทศไทยให้เกิดการหมุนเวียน ซึ่งการสร้าง Economic Impact ในรูปแบบของรายได้ และภาพลักษณ์อันดีให้แก่ประชาชนชาวไทย

เปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงทีมฟุตบอลที่ชื่นชอบ และมีโอกาสได้เข้ามาชมการแข่งขันของนักเตะระดับโลก

เป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางด้ยานกีฬาแก่บุคคลทั่วไปและเยาวชนไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ

ก่อนหน้านี้ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ได้ออกมาประกาศ ราคาตั๋วเข้าชม การแข่งขันศึกแดงเดือดในไทย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 25,000บาท เริ่มเปิดขายตั๋วให้บุคคลทั่วไปตั้งแต่  11 มีนาคมนี้

"วินิจ" แจงศึกแดงเดือด ค่าไลเซนส์ 776 ล้าน ลั่นของบรัฐ 400 ล้าน ไม่ได้ก็จัดต่อ "วินิจ" แจงศึกแดงเดือด ค่าไลเซนส์ 776 ล้าน ลั่นของบรัฐ 400 ล้าน ไม่ได้ก็จัดต่อ