โควิดพุ่งไม่หยุด อุตรดิตถ์หวนเปิดโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง

โควิดพุ่งไม่หยุด อุตรดิตถ์หวนเปิดโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง

อบจ.อุตรดิตถ์ จัดรถโมบายเอกซเรย์เคลื่อนที่ บริการผู้ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยงโควิด-19 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กลับมาเปิดโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง หลังยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มไม่หยุด

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ด้านหน้าโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 (หมอนไม้) จ.อุตรดิตถ์ นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายก อบจ.อุตรดิตถ์ พร้อมผู้บริหาร อบจ.อุตรดิตถ์ ส่งมอบรถเอกซเรย์เคลื่อนที่แบบปรับอากาศ พร้อมเครื่องเอกซเรย์แบบดิจิตอล จำนวน 1 คัน และเป็นคันแรกของภาคเหนือ เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ในโรงพยาบาลสนาม ให้สามารถวินิจฉัย รักษาพยาบาลผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 โดย นพ.อายุส ภมะราภา ผอ.รพ.อุตรดิตถ์ และ นายเกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)อุตรดิตถ์เป็นตัวแทนรับมอบ

 

โควิดพุ่งไม่หยุด อุตรดิตถ์หวนเปิดโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง

นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายก อบจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ควบคุมการระบาดโควิด-19 ประกอบกับรองรับการบริการประชาชนของกองสาธารณสุขของ อบจ.อุตรดิตถ์ ที่รับถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.)ประจำตำบล กว่า 40 แห่ง จึงได้จัดงบประมาณกว่า 7 ล้านบาท จัดหารถเอกซเรย์เคลื่อนที่แบบ ปรับอากาศ พร้อมเครื่องเอกซเรย์ ระบบดิจิตอล ขนาดไม่น้อยกว่า 500 mA จำนวน 1 คัน และเป็นคันแรกของภาคเหนือ ในช่วงการระบาดโควิด-19 ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง รถจะประจำโรงพยาบาลสนาม วินิจฉัย รักษาพยาบาลผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง ด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ มีประสิทธิภาพ เพิ่มเสริมศักยภาพการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ลด การเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ และลดความแออัดผู้ใช้บริการที่โรงพยาบาลประจังหวัด เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย รถคันดังกล่าวยังสามารถเคลื่อนที่ประจำตาม รพ.สต.ต่างๆ ในการตรวจวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับปอดเป็นต้น

 

นายแพทย์เกษม ตั้งเกษมสำราญ สสจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เข้าปี 2565 มาได้ 50 วัน การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ของหวัดอุตรดิตถ์เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องยอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,573 ราย เสียชีวิต 6 ราย ร้อยละ 80 คือสายพันธุ์โอมิครอน เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่กระจายชุมชน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงกลับมาเปิดให้บริการโรงพยาบาลสนามประจำอำเภอ 5 แห่งอีกครั้ง หลังหยุดให้บริการไปก่อนหน้านี้ คือ โรงพยาบาลวัดขวางชัยภูมิ อำเภอพิชัย ,โรงพยาบาลสนามเวียงเจ้าเงาะ อำเภอลับแล ,โรงพยาบาลสนามสนามกีฬาหมอนไม้ และ ทุ่งกะโล่ อำเภอเมือง และโรงพยาบาลสนามอำเภอท่าปลา โดยครั้งนี้ปรับให้เป็นทั้งโรงพยาบาลสนามและสถานที่กักตัวของกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในชุมชน และยังพบประชาชนทุกกลุ่มอายุ กลุ่มอาชีพติดเชื้อโควิด-19 ทั้งโรงเรียน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานราชการ เอกชน และพระสงฆ์

 “ประชาชนต้องไม่การ์ดตก และต้องรับการฉีดวัคซีนพบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์ร้อยละ 26 ที่บูสเช็ม 3 ดังนั้น เจ้าหน้าที่เร่งประชาสัมพันธ์และเปิดจุดบริการให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนเข็มที่ 3 ตาม รพ.สต.ประจำตำบลใกล้บ้าน โรงพยาบาลประจำอำเภอ ตามจุดบริการนอกสถานที่ แบบ walk in” สสจ.อุตรดิตถ์กล่าว