"โควิด-19" พ่นพิษ "วาเลนไทน์" ร้านดอกไม้เงียบเหงา

"โควิด-19" พ่นพิษ "วาเลนไทน์" ร้านดอกไม้เงียบเหงา ดอกกุหลาบพุ่งสูง ยอดการจำหน่ายสวนกระแส ลดลงหลายเท่าตัว คาดลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบโควิด ขณะที่แม่ค้าปรับกลยุทธการจัดอกไม้

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 65 บรรยากาศการซื้อขายดอกกุหลาบและของขวัญในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่จังหวัดมหาสารคามปีนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา ส่วนราคาดอกกุหลาบพุ่งสูง จากราคาดอกละ 8 บาท เป็น 25 บาท แพงสุด ดอกละ 70 บาท ส่วนยอดการจำหน่ายสวนกระแส ลดทางหลายเท่าตัว คาดลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบโควิด ถึงแม้ราคาจะแพง ยังมีลูกค้าเก่าแวะเวียนมาสั่งจองซื้อไปแสดงความรักเนื่องในวันวาเลนไทน์เหมือนเดิม เพราะแม่ค้าใช้กลยุทธ์เน้นความสดใหม่ของดอกไม้ และความสนิทสนมเป็นกันเองกับลูกค้าทุกคน

น.ส.ณัฐนันท์ แสนบุดดา เจ้าของร้านดอกไม้จิ๋วฟลาวเวอร์ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า ยอดสั่งดอกกุหลาบในปีนี้ถือเงียบเหงา เนื่องจากเกิดผลกระทบจากโรคโควิด 19 ที่กำลังระบาดหนักในหลายพื้นที่ ลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ ในปีนี้ถือว่ายอดการสั่งจองลดลงจากเคยมียอดสั่งจอง 100 ช่อง เหลือ 20 ช่อ ส่วนราคาดอกกุหลาบ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาประกอบเป็นช่อดอกไม้ พุ่งสูงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ทางร้านต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนราคายังคงจำหน่ายเท่าเดิม แต่ลดจำนวนดอกไม้ลง บางครั้งต้องยอมขายขาดทุน เพราะต้องระบายดอกไม้ให้หมด เพราะทางร้านเน้นความสดใหม่ของดอกไม้

ซึ่งส่วนราคาจำหน่ายจะเริ่มอยู่ที่ช่องละ 350 บาทถึงช่อละ 5,000 บาท ซึ่งราคาขายก็จะอยู่ที่ขนาด และคุณภาพ และเกรดของดอกกุหลาบ ส่วนลูกค้าจะเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน หรือเจ้าของธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง ลูกค้ามีการสั่งโทรมาสั่งจองน้อย ส่วนมากจะแวะมาสั่งทำทันที ทำให้ต้องเหนื่อยเพิ่ม แต่ก็ต้องทำใจ เพราะว่าต้องรับลูกค้าไว้ก่อน เพราะยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ว่าจะลดลงในวันไหน