บช.ภ.1 ทลายแก๊งลักรถยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

บช.ภ.1 ทลายแก๊งลักรถยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

ตำรวจภูธร ภาค 1 ทลายแก๊งลักรถยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ตามออร์เดอร์เน้นกระบะอีซูซุดีแม็ก พบประวัติพึ่งออกคุก4 เดือน ก่อเหตุ แล้วกว่า 10 คัน

10 ก.พ.2565 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมนายวิรุฬห์กานต์ หรือแมว เปล่งนภาวรากรณ์ อายุ 46 ปี นายธยานะ หรือแบงค์ บูรณะอนันชัย อายุ 40 ปี และนายธรรมนูญ หรือตูน เจริญศรี อายุ 57 ปี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลางรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ขผ-4728 กทม. รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นซีเดีย สีบอรน หมายเลขทะเบียน ขข-663 พระนครศรีอยุธยา รถยนต์อีซูซุ ดีแม็ก สีขาว อาวุธปืนลูกกรด ขนาด.22 และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุอีกหลายรายการ 

 พล.ต.ท.จิรพัฒน์  กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน พ.ย.64-ม.ค.65 กองบังคับการสืบสวนภาค 1 ได้รับรายงานเหตุจากสถานีตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.1 มีกลุ่มคนร้ายตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์อีซูซุดีแม็กหลายคัน และแผนประทุษกรรมของคนร้ายลักษณะเดียวกัน คือมีคนร้ายอย่างน้อย 2 คน ขับรถยนต์อีซูซุ มิราจ ตระเวนลักทรัพย์เป็นรถยนต์กระบะอีซุซุ รุ่นดีแม็กซ์ตามชุมชน หมู่บ้าน ริมทางสาธารณะ หรืออพาร์ทเมนต์ โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.แก่งคอย สภ.บางบัวทอง สภ.บางพลี 

 

จากการตรวจสอบพบว่านายวิรุฬห์กานต์ มีประวัติต้องโทษ 12 คดี นายธยานะ มีประวัติต้องโทษ 7 คดี  ส่วนนายธรรมนูญ มีประวัติต้องโทษ 4 คดี ซึ่งทั้ง 3 คน จะแบ่งหน้าที่กันทำโดยนายวิรุฬห์กานต์ และนายธยานะ มีหน้าที่ในการก่อเหตุ ส่วนนายธรรมนูญ มีหน้าที่นำรถยนต์ที่ก่อเหตุมาได้ ส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาข่าวติดตามพฤติกรรมคนร้ายแล้วนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น 6 จุด ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง 

โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับว่าเคยต้องโทษในคดีโจรกรรมรถยนต์มาก่อนและได้รู้จักกันในเรือนจำ และพึ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ก.ย.64 ที่ผ่านมา โดยร่วมกันมาก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยจะเน้นรถยนต์กระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์  โดยจะรับงานตามออร์เดอร์ ก่อนนำส่งขายประเทศเพื่อบ้านผ่านทางจังหวัดเชียงราย ราคาคันละ 150,000-200,000 บาท จึงขอฝากไปยังประชาชนให้ป้องกันทรัพย์สินโดยการล๊อครถยนต์ให้แน่นหนา จอดในที่ปลอดภัยมีแสงสว่าง และติดสัญญานกันขโมย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ได้มีเจ้าของรถยนต์กระบะที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไป ได้มาติดต่อขอรับรถยนต์คืน เป็นรถยนต์อีซูซุดีแม็กซ์ 2 คัน คันแรกถูกโจรกรรมไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา แจ้งความไว้ที่ สภ.บางพลี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามได้ขณะที่กลุ่มคนร้ายอยู่ระหว่างนำรถเพื่อส่งข้ามแดนแต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้พื้นที่ สภ.จอมทองจ.เชียงใหม่ และอีกหนึ่งคันถูกโจรกรรมไปช่วงปีใหม่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสกัดจับได้เช่นเดียวกัน โดยเจ้าของรถทั้ง 2 คัน ได้นำกระเช้ามาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามรถกลับคืนมาได้ เพราะไม่คิดว่าจะได้รถคืน ต่างคนต่างทำใจ คิดว่าต้องผ่อนกุญแจจนครบสัญญญา ต่อไปจะไม่ประมาทล็อครถยนต์ให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น