ระวัง! แอบอ้าง "พนักงานทรู" เก็บเงินค่าเน็ตถึงบ้าน ชาวบ้านงงคนร้ายรู้รายละเอียดดี

ชาวบ้าน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อน หลังมีหนุ่มแอบอ้างเป็น "พนักงานทรู" มาตามเก็บกล่องเราเตอร์ อินเตอร์เน็ต ที่ถูกตัดสัญญาณ เพราะไม่ได้ชำระเงินค่าอินเทอร์เน็ต พร้อมกับเรียกเก็บเงินที่ค้างชำระ มีผู้เสียหายหลายราย วอนตำรวจล่าตัวเพราะถ่ายคลิปไว้ ชาวบ้านเป็นงง หนุ่มคนนี้มีรายละเอียดลูกค้าอย่างดี

วันที่ 2 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 5 ต.โคกสุง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าได้รับความเดือดร้อน และอยากให้ จนท.ติดตามคนร้ายมาลงโทษ เนื่องจากแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัททรู มาเรียกเก็บเงินที่ค้างชำระค่าอินเตอร์เน็ต มีผู้เสียหายในหมู่บ้านหลายราย

นางหนูเจียม ประสันแพงศรี อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ที่ถูกหลอก เล่าว่า ได้มีชายอายุประมาณ 30-35 ปี ขับรถกระบะรุ่นเก่ามาจอด ลงมาสวมเสื้อบริษัททรู แล้วกางสมุดบัญชีรายชื่อผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทรู

แล้วแจ้งว่า ”ป้าค้างจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตหลายเดือน บริษัทจำเป็นต้องเก็บกล่องเราเตอร์กลับบริษัท” ตนยอมรับว่าไม่ได้จ่ายค่าอินเตอร์เน็ตจริง จึงยอมให้ไปถอดออก แต่หนุ่มคนดังกล่าว แจ้งว่าเงินที่ค้างชำระจำนวน 4 เดือน เป็นเงิน 2,900 บาท บริษัทให้เก็บไปด้วย

แต่ตนไม่มีเงินจึงเจรจาขอผ่อนชำระ แต่พนักงานทรู บอกว่าไม่ได้ จึงลดราคาให้เหลือ 2,300 บาท ตนจึงไปหายืมเงินญาติมาชำระจนเสร็จสิ้น กระทั่งมารู้ในภายหลังว่าเป็นพนักงานทรูปลอม รู้สึกเสียใจ เสียดายเงินที่จ่ายไป เพราะช่วงนี้หาเงินยากลำบาก แถมยังมาถูกโกงอีก

ด้านนางกันตภรณ์ เขือกรัมย์ อายุ 51 ปี คนเดียวที่เอาตัวรอดจากการถูกหลอก เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีชายอ้างว่าเป็นพนักงาน บริษัททรู

มาเก็บเงินที่ลูกค้าค้างชำระค่าไวไฟ โดยมีข้อมูลชื่อ นามสกุล และยอดค้างขำระตรงกับข้อมูลตน แต่ตนแปลกใจว่า ทำไมเป็นรายมือเขียน ไม่เป็นเอกสารของทางบริษัท พยายามมองดูยังพบว่ามีรายขื่อของญาติพี่น้องตนด้วย

จึงถามพนักงานคนนั้นว่า มาจากไหน แล้วใครให้มา ชายคนนั้นก็ตอบชัดเจนมาจากบริษัททรู แต่ก็ยังเอะใจอยู่ดี จึงบอกไปว่า “พี่ไม่มั่นใจว่าเป็นพนักงานบริษัททรู” ขอดูบัตรพนักงานก็ไม่มีให้ดู

จึงแจ้งไปว่า พี่จะจ่ายให้แน่นอน แต่ขอโทรศัพท์ติดต่อกับบริษัททรูก่อน ชายคนนั้นบอกว่าผมรีบ วันหลังจะมาอีกครั้ง ตนจึงแอบถ่ายรูปชายคนดังกล่าวและทะเบียนรถไว้ ก่อนที่พนักงานคนนั้นจะรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นได้โทรศัพท์หาญาติที่เห็นรายชื่อว่าให้ระวัง แต่ปรากฏว่า ญาติได้จ่ายเงินไปแล้ว จึงมาสอบถามกันพบว่าภายในหมู่บ้านมีรายชื่ออยู่ 8 รายชื่อ จ่ายเงินให้กับพนักงานปลอมคนนี้ไป 6 ราย คิดเป็นเงินประมาณ 13,000 บาท จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายรายนี้ มาดำเนินคดี และคาดว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายที่ สิ่งที่ชาวบ้านงงคือ”เอาข้อมูลมาจากไหน”