กรมเจ้าท่า สั่งระงับใช้ทุ่นเรือขนถ่ายน้ำมัน SPRC ต้นตอน้ำมันรั่วกลางทะเล

กรมเจ้าท่า สั่งระงับใช้ทุ่นเรือขนถ่ายน้ำมัน SPRC ต้นตอน้ำมันรั่วกลางทะเล

กรมเจ้าท่า สั่งระงับการใช้ทุ่นเทียบเรือขนถ่ายน้ำมันของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จนกว่าจะมีการแก้ไขและตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของความพร้อมของท่อน้ำมันใต้น้ำให้สภาพปลอดภัยพร้อมใช้งาน หลังเป็นต้นเหตุทำน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 ศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (ศปส.จท.) เปิดแถลงข่าว กรณีท่อน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลของ บ.สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จก. (มหาชน) โดยมี นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รอง ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รอง ผวจ.ระยอง นายธวัช เจนการ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด นายอาวีระ ภัคมาตร์ หน.สนง.สิ่งแวดล้อมที่ 13 นายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผจก.ฝ่ายความปลอดภัยระบบคุณภาพสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก.และนายธีรพล ประภากร ผู้แทนสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอนุรักษ์อุตสาหกรรมน้ำมัน ร่วมแถลงข่าว

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทผู้ก่อมลพิษแล้ว และได้ออกคำสั่งกรมเจ้าท่า ระงับการใช้ทุ่นเทียบเรือขนถ่ายน้ำมันของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จก.จนกว่าจะมีการแก้ไขและตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของความพร้อมของท่อน้ำมันใต้น้ำให้สภาพปลอดภัยพร้อมใช้งาน และประกาศแจ้งเตือนให้ผู้เดินเรือใช้ความระมัดระวังเดินเรือพื้นที่ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ยังได้มีหน้าที่ตามแผนการปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันแห่งชาติ ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมเอกสารค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น และค่าใช้จ่ายการดำเนินการบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมามีสภาพดังเดิมอีกด้วย

พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รอง ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า จากการสำรวจจากเรือลาดตระเวน พร้อมกับสำรวจทางอากาศยานและภาพถ่ายดาวเทียมไม่พบคราบน้ำมันแล้ว และเฝ้าระวังตามแนวหาด 17 จุดยังไม่พบคราบน้ำมัน ส่วนการแก้ไขปัญหาคราบน้ำมันในทะเลยังคงมีการกางบูม 4 ชุด เพื่อป้องกันคราบน้ำมันไปยังอ่าวบ้านเพ และอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด และมีเรือสังเกตการณ์คราบน้ำมันในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย 

ด้าน นายธวัช เจนการ หน.อุทยานฯเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด กล่าวว่า ทาง รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีความกังวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบกับพืชทางทะเล ทรัพยากรใต้น้ำที่มีความหลากหลาย โดยมีหญ้าทะเล ปะการัง 65,000 ไร่ โดยเฉพาะเกาะเสม็ด เพิ่งจะเริ่มฟื้นฟูจากน้ำมันรั่วครั้งแรก ปี 2556 จากเหตุการณืที่เกิดขึ้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงดำนำสำรวจการเปลี่ยนแปลงปะการัง สัตว์น้ำใต้น้ำ 3 วันแรก ยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างไร พร้อมจัดสายตรวจเจ้าหน้าที่ล่าตระเวนทุกวัน ซึ่งในส่วนพื้นที่ของอุทยานฯ พบหาดแม่รำพึงได้รับผลกระทบ เบื้องต้นได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง เอาผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมกับจะมีการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมต่อไป