กกต. พร้อมจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ใน 60 วัน

กกต. พร้อมจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ใน 60 วัน

กกต. พร้อมจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ใน 60 วัน เพียงรอหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่

กรณีที่ รมว.มหาดไทยได้มีคำสั่งปลดนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ และทำให้ กกต. จะต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ กรณีตำแหน่งที่ว่างลง นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้  นายพิทักษ์ คำอุ่น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า เรื่องแรกได้รับทราบเพียงแต่ข่าว ยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เรื่องที่สอง ถ้ากรณีนี้เกิดขึ้นจริงในหน้าที่ของ กกต. ก็จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งกรณีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ในกฎหมายบอกว่ากรณีเหตุอื่น ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง ส่วน 45 วันเป็นกรณีครบวาระ

ทั้งนี้ เท่าที่ทราบเหตุคำสั่งปลด นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ อยู่ในช่วงดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ.2551-2555 และ พ.ศ.2555-2564 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายเมื่อปลายปี 2564 คำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พ้นตำแหน่งจึงมีผลตั้งแต่ พ.ศ.2551และด้วยผลของกฎหมายเทศบาลได้กำหนดว่า ถ้ามีคำสั่งกรณีดังกล่าวถ้าหากว่าปัจจุบันนี้ผู้ที่ถูกคำสั่งเองกำลังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นก็ดีก็ให้พ้นจากตำแหน่งไปด้วย

 

ดังนั้นจึงเป็นกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ ชี้มูลมาตั้งแต่สมัยนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ.2551-2555 และก็ต่อเนื่องกันมา แล้วนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ อธิบายในโพสต์หรือในเฟซบุ๊ก เขาก็พูดถึง 2 เรื่องที่ ปปช.ชี้มูลเขาคือ เรื่องของการลดภาษี โรงแรม หรือการชะลอหรืองด การจัดเก็บค่าจอดรถของเทศบาลแต่ว่า กกต.ยังไม่เห็นรายละเอียด ของคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ จะได้ส่งตามมา

ทั้งนี้ในกฎหมายเทศบาลฉบับแก้ไขเพิ่มเติม สุดท้ายปี พ.ศ.2562 เขากำหนดว่าแม้จะมีมูลเหตุในการปลดนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ตั้งแต่ พ.ศ.2551 แต่จะไม่กระทบต่อ ค่าตอบแทน และการดำเนินการ ของนายกเทศมนตรี ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เมื่อได้รับคำสั่ง เขาก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของ กกต.จังหวัดแพร่ รอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด มีหนังสือแจ้งมาว่า นายกเทศมนตรีเมืองแพร่พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอะไร หลังจากนั้นก็จะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องซึ่ง ตามกฎหมายจะต้องเลือกตั้งภายใน 60 วันนับ นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงคือวันที่ 10 มกราคม 2565

นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ การขอความคุ้มครองจากศาลชั่วคราว นั้นจะเป็นคนละส่วนในหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องทำหน้าที่จัดการเรื่องตั้งไปตามกฎหมาย ส่วนนายกเทศมนตรี ที่ถูกคำสั่ง ของกระทรวงมหาดไทย ปลดนั้น ด้วยหลักกฎหมายปกครอง เขาก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องศาลเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่ง และสามารถขอให้ ศาลคุ้มครองชั่วคราวได้ ถ้าหากต่อไปเขาไปฟ้องศาลปกครอง แล้วศาลปกครองมีคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว ก็ถือว่าคำสั่งของ รมว.มหาดไทย ก็ยังไม่มีผลใช้บังคับ

ส่วนการขอความคุ้มครองชั่วคราว อยู่ในการอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาว่าจะให้ความคุ้มครองหรือไม่ ถ้าไม่ให้ความคุ้มครองคณะกรรมการการเลือกตั้งก็จัดการเลือกตั้งไป หากในส่วนของ กกตเมื่อได้ได้ดำเนินการประกาศให้มีการเลือกตั้งไปแล้ว ต่อมาปรากฏว่าได้รับคำสั่ง จากศาลว่า ศาลคุ้มครองชั่วคราว อย่างนี้ก็ถือว่า กกต.ต้องหยุด และขยายระยะเวลา ในการจัดการเลือกตั้งออกไป

นายพิทักษ์  กล่าวอีกว่า การที่ศาลให้ความคุ้มครองชั่วคราวกับการไม่ให้ความคุ้มครองชั่วคราวมีผลต่างกัน ถ้าศาลให้ความคุ้มครองชั่วคราว ก็ถือว่าคำสั่งของ รมว.มหาดไทย ยังไม่มีผลใช้บังคับ ในส่วนของการจัดการเลือกตั้งก็ยังถือว่าตำแหน่งยังไม่ว่าง แต่ถ้าสมมุติว่า ศาลไม่ให้ความคุ้มครองชั่วคราว แล้ว กกต. ก็ดำเนินการ จัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ต่อไป ที่นี้ปรากฏว่าเมื่อเลือกตั้งไปเสร็จแล้ว ได้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่คนใหม่แล้ว หากว่าคดีที่เขาไปฟ้องคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแล้วชนะคดี กฎหมายเลือกตั้งได้กำหนดไว้แล้วว่าจะไม่กระทบต่อ การจัดการเลือกตั้งที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่ ได้จัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ไปแล้ว และคนที่จะมาเป็น นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ก็เป็นคนที่ได้รับการเลือกตั้งคือคนใหม่ คนเก่าก็จะกลับมาไม่ได้แล้ว

ในกรณีที่ การสั่งหรือ มีคำ วินิจฉัย ให้ ผู้บริหารท้องถิ่น ประธาน หรือรองประธานสภาท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น พ้นจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ให้มี การเลือกตั้งใหม่ หรือเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างแล้ว แม้ ภายหลังศาลจะมี คำพิพากษาหรือ คำสั่ง หรือคำวินิจฉัย พ้นจากตำแหน่ง ไปโดยมิชอบ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ที่ กกต. ได้ดำเนินการไปแล้ว ตามมาตรา 18 ของพ.ร.บ การเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ. 2562 เขียนรองรับไว้แล้ว