ทน.อุดรฯ เตรียมแผนปรับปรุงทางม้าลาย หวั่นเกิดกรณี "หมอกระต่าย"

เทศบาลนครอุดรธานี เตรียมแผนปรับปรุงทางม้าลายอย่างเร่งด่วนให้มีความปลอดภัย หวั่นเกิดกรณีคล้าย "หมอกระต่าย"

จากกรณี ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้หมอกระต่ายเสียชีวิต จนเป็นกระแสพูดคุยถึงเรื่องความปลอดภัย ล่าสุดเทศบาลนครอุดรธานีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเรียกประชุมฝ่ายเกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน เพื่อปรับปรุงแก้ไขทางม้าลายในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดเหมือนกรณีหมอกระต่าย

ล่าสุด นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศบาลนครอุดรธานี เป็นประธานการประชุมกรณีเร่งด่วน “ทางม้าลายปลอดภัยในเขตเทศบาลนครอุดรธานี” โดยมีคณะผู้บริหาร สำนักการช่าง และฝ่ายทีมงานวิศวกรรมจราจร เทศบาลนครอุดรธานี เข้าร่วมการประชุมฯ เพื่อพูดคุยและกำหนดแนวทางการปรับปรุงทางม้าลายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีการนำข้อมูลการจัดทำทางม้าลายที่ถูกต้องตามแบบวิศกรรม มาเปรียบเทียบและวิเคราะห์เพื่อเร่งปรับปรุงในจุดเสี่ยงก่อนเป็นอันดับแรก

นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์สะเทือนใจของคนทั้งประเทศ ที่มีคุณหมอท่านหนึ่งถูกรถชนบนทางม้าลาย ในฐานะของผู้บริหาร ทน.อุดรธานี เรามีนโยบายที่จะทำให้เป็นเมืองปลอดภัยอยู่แล้ว เราเลยยกประเด็นนี้ขึ้นมา ซึ่งเห็นว่าทางม้าลายของ ทน.อุดรธานี ต้องเร่งปรับปรุงอย่างเร่งด่วนให้มีความปลอดภัย เมืองไทยของเรามีกฎหมายเหมือนเมืองนอกทุกอย่าง แต่ความรับผิดชอบสังคมหรือวินัยจราจรยังไม่มี เราเห็นตัวอย่างการปรับปรุงทางม้าลายในหลายที่

“ต้องยกย่องทางเมืองพัทยาที่กล้าที่จะทำทางม้าลายตามแบบมาตรฐาน คิดว่ารูปแบบของเราก็จะทำแบบนี้เช่นกัน ในเมื่อวินัยจราจรเรามีน้อย การออกแบบก็จะต้องโอเวอร์ดีไซน์หน่อย แนวความคิดคืออยากทำทางเท้าให้มันเด่นชัด ทำให้กว้างไปเลย ทำให้สีเด่นชัดไปเลย เราจะพยายามปรับปรุงให้มีสัญญาณมีป้ายจราจร โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน เราจะเร่งสำรวจหน้าโรงเรียนทุกแห่ง โดยเฉพาะ ถ.ศรีสุข ที่มีโรงเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก ที่เด็กจะต้องเดินทางข้ามทางม้าลายอยู่เป็นประจำ รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ด้วย และจะขยายให้ครอบคลุมตัวเมืองให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสะเทือนใจแบบนี้ขึ้นอีก”
 

นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยอีกว่า เรามีทีมช่างที่ทำเองได้อยู่แต่กำลังเรามีน้อย เรากำลังสั่งซื้อเครื่องทาสีตีเส้น อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อ กว่าจะได้คงอีกหลายเดือน อาจจะต้องเร่งหาผู้รับจ้างผู้รับเหมา มาเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นการเร่งด่วน รูปแบบการปรับปรุงต้องใช้สีที่เด่นชัด อย่างเช่นสีแดงตามแบบที่เราเห็นมา ก่อนถึงทางม้าลายประมาณ 50 ม. จะมีสัญลักษณ์รูปแบบทาสีตีเส้นให้เห็นชัดเจน ที่จะทำให้เห็นว่าจะถึงทางม้าลายแล้วนะ

“ส่วนเรื่องวินัยจราจรเราพูดถึงกันมานานแล้ว โดยเฉพาะในเขตเมือง เราอย่าไปคิดว่าไม่มีคนข้าม อยากให้ผู้ขับขี่รถ ลดความเร็วลงเมื่อถึงที่ชุมชน โดยเฉพาะหน้าโรงเรียนหรือโรงพยาบาล อีกส่วนคือการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณทางม้าลายที่เป็นจุดเสี่ยง ก็จะเร่งสำรวจอีกครั้งว่ามีจุดบอดตรงไหนบ้าง ก็จะได้เร่งดำเนินการไปพร้อมกัน”

ส่วนบรรยากาศถนนศรีสุขหน้าโรงเรียนถึงการใช้ทางม้าลาย โดยตามที่สังเกตก็มีนักเรียน ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ก็ยังใช้ทางม้าลายในการข้ามถนนก็เป็นจำนวนมาก และในส่วนตามสี่แยกบางครั้งก็ยังมีรถจอดติดไฟแดงจอดเกินไปบางก็มี แต่บางคนก็จอดหลังเส้นตามที่ไว้ และสีของทางม้าลายบางจุดก็เริ่มที่ไม่ค่อยชัดมาก และในส่วนที่บริเวณสี่แยกชิบูยา ระหว่างถนนประจักษ์ตัดกับถนนทองใหญ่ที่เคยทำทางม้าลายแบบของประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีประชาชนใช้ทางม้าลายข้ามถนนอยู่ ซึ่งตอนนี้ทางม้าลายสีก็เริ่มที่จะมองไม่ค่อยชัดเหมือนที่ทำช่วงแรก และตรงนี้ก็มีทางม้าลายแบบเดินข้ามผ่านกลางสี่แยก แต่ประชาชนก็ไม่ค่อยใช้มาใช้ทางม้าลายแบบทั่วไปมากกว่า

นายโชคชัย ภูล้ำผา อายุ 53 ปี พ่อค้า เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายเสื้อผ้ามาเป็น 10 ปีอยู่ที่บริเวณนี้ ทางม้าลายตามความคิดของตนคิดว่ามีประโยชน์ และก็อยากที่จะให้ทำมีสีสันเห็นเด่นชัดดีขึ้นไปอีกกว่าที่มีมา ซึ่งทางม้าลายตามความคิดตนอยากให้มีลักษณะที่ตรงขวางถนน และไม่ต้องมาเฉียงแบบบริเวณสี่แยกชิบูยา ถนนประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพราะถ้าเป็นแบบตรงๆ คนก็จะใช้ข้ามถนนมากขึ้น แต่ถ้าเป็นลักษณะแบบสี่แยกนี้ทางม้าลายมันดูไกลไปทำให้คนก็ไม่ใช้ประโยชน์ในการข้ามถนน ซึ่งตนอยากให้ทำทางม้าลายตรงที่มีคนใช้ข้ามถนนเยอะก็ควรจะมีทางม้าลาย ตนก็อยากให้ทางเทศบาลนครอุดรธานีทำทางม้าลายที่มีสีเข้มข้นขึ้น เพื่อให้คนเห็นชัด