ทลายแก๊งเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน 100 ล้านต่อเดือน

ทลายแก๊งเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน 100 ล้านต่อเดือน

สตม. ทลายแก๊งเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน กว่า100 ล้านต่อเดือน พร้อมรวบแก๊งฮังการีโกงเงินประกัน เสียหายกว่า 42 ล้านบาท

จากกรณีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. , ศปอส.ตร.  เข้าตรวจค้น อาคาร พื้นที่หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 2/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค. 65 และทำการตรวจค้น ห้องในคอนโดฯ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.65 จับกุม ชาวเกาหลีใต้ จำนวน 11 คน

 ได้แก่ 1. MR.KYOUNGMIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36 ปี  2. MR.HOYEONG สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี  3. MR.GANGTO สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี  4.MR.GYEONGSU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี 5. MR.JEONG สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี 6.MR.SEUNGWOOK สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี 7. MR.KYEONGKYU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 20 ปี 8. MR.SUNGHYUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 37 ปี 9. MR.WOOKJIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36 ปี 10.MR.YOUNGJUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี 11. MR.DOHYEON สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้เล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฏหมายและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาติ” พร้อมยึดของกลาง รวมทั้งหมดจำนวน 60 รายการ แบ่งเป็น คอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 19 จอ คอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่อง และ บัตรส่งรหัส otp จำนวน 11 ใบ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตารวจ กก.1 บก.สส.สตม. รวมกำลังจับกุมชาวฮังการี หนีคดีฉ้อโกงเงินประกันกว่า 42 ล้านบาท โดยจับกุม นายลาจอส อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี โดยกล่าวหาว่า “เป็นคน ต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นาตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

พฤติการณ์การกระทาผิด กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตารวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้ออกตรวจสอบคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงคอนโดมิเนียมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พบนายลาจอส ท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง ปรากฏว่านายลาจอส ไม่สามารถนามาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ จึงได้เชิญตัวมาที่ กก.1 บก.สส.สตม. เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักร ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. จากการตรวจสอบพบว่านายลาจอสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 วีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดรวม จานวน 4,254 วัน เจ้าหน้าที่ตารวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนายลาจอส ส่ง พงส.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ในการตรวจสอบข้อมูลจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ยังพบว่า กองการต่างประเทศ สานักงานตารวจแห่งชาติ มีหนังสือ ที่ 0002.4/4127 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 แจ้งว่า นายลาจอส เป็นผู้ต้องหา ที่ทางการฮังการีต้องการตัวตามหมายจับของศาลฮังการีในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย เป็นเงินจานวน 401,394,145 โฟรินต์ฮังการี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 42 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัทร์ รอง ผบ.ตร. และ  มอบหมายให้ สตม. 

ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ กับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.